พลิกโฉมห้องทำงานที่บ้านให้หรูหราด้วย 5 ไอเดียการออกแบบ
Modern Minimalist
ห้องทำงานหรูสไตล์ Modern Minimalist คือห้องทำงานที่จุดเด่นคือความเรียบง่าย เน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก โดยใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีดีไซน์ไม่หวือหวาและเน้นโทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีครีม สีเบจ หรือสีฟ้าอ่อน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สะอาดตา ชวนให้ผ่อนคลาย
เหตุผลที่การออกแบบห้องทำงานในสไตล์ Modern Minimalist ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ บรรยากาศที่เรียบง่ายและสะอาดตาจะช่วยดึงดูดความสนใจไปที่งานที่กำลังทำอยู่ และช่วยลดสิ่งรบกวนจากภายนอก อีกทั้งยังกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้ดี ดังนั้น หากต้องการเนรมิตห้องทำงานใหม่ให้มีกลิ่นอายของความโมเดิร์น สไตล์ Modern Minimalist คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์
Art Deco Drama
Art Deco Drama คือสไตล์การออกแบบภายในที่ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษที่ 1920-1930 มีลักษณะเด่นคือการใช้เส้นสายที่เรียบง่ายทว่าดูสง่างาม ผสมผสานกับรูปทรงเรขาคณิตอย่างสมมาตร เน้นการใช้วัสดุที่หรูหรา เช่น ทอง เงิน ทองแดง คริสตัล กระจก เป็นต้น
สำหรับใครที่ต้องการให้ห้องทำงานที่บ้านผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความคลาสสิกได้อย่างลงตัว Art Deco Drama คืออีกหนึ่งไอเดียที่จะเนรมิตภาพในจินตนาการให้กลายเป็นความจริงได้
Contemporary Chic
อีกหนึ่งสไตล์ที่มีที่มาจากช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เอกลักษณ์โดดเด่นคือการผสมผสานระหว่างสไตล์ Modern ที่เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และใช้สอยพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า แต่ยังคงความ Chic เอาไว้ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีกลิ่นอายของความหรูหราแต่ดูเท่ จนกลายเป็นสไตล์ใหม่ที่ถูกเรียกขานว่า “Contemporary Chic” ได้อย่างลงตัว
การตกแต่งภายในสไตล์ Contemporary Chic มักใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายแต่มีดีไซน์ที่ทันสมัย เช่น โซฟาหนัง เก้าอี้บาร์เหล็ก โต๊ะทำงานกระจกเงา เป็นต้น สำหรับโทนสี มักใช้โทนสีอ่อนสบายตา เช่น สีขาว สีเทา หรือสีเอิร์ทโทนเพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้น หากต้องการเปลี่ยนห้องทำงานให้หรูขึ้น พร้อมได้บรรยากาศแบบโมเดิร์น นี่คือสไตล์ที่ควรจดไว้ในลิสต์
Mid-Century Modern
ด้วยเสน่ห์ของความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความคลาสสิกและกลิ่นอายของความวินเทจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Mid-Century Modern จะกลายเป็นอีกตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการออกแบบห้องทำงานในยุคนี้
ห้องทำงานสไตล์ Mid-Century Modern เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก โดยมักเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้โอ๊ก ไม้มะฮอกกานี หรือไม้สัก เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้โดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือวงกลม และนอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ด้านโทนสี ห้องทำงานหรูสไตล์นี้ ยังเน้นการใช้สีสันที่เรียบง่าย เช่น ขาว ดำ เทา หรือน้ำตาล บางครั้งอาจใช้สีสันสดใสอย่างสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เพื่อสร้างลูกเล่นที่โดดเด่นสะดุดตา อยู่นาน ๆ แล้วไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
Scandinavian Serenity
สไตล์ Scandinavian Serenity เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยนักออกแบบชาวสแกนดิเนเวียที่ต้องการสร้างสไตล์การออกแบบที่เรียบง่าย สะอาดตา และผ่อนคลาย เหมาะกับการพักผ่อน รวมถึงการทำงาน ด้วยเหตุนี้ Scandinavian Serenity จึงเน้นการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ รวมถึงใช้โทนสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว สีเบจ สีฟ้าอ่อน สีพาสเทล เป็นต้น และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ดูโปร่งโล่ง ไม่รกตา
ในปัจจุบัน สไตล์ Scandinavian Serenity ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากเป็นสไตล์การออกแบบที่เรียบง่าย สะอาดตา ผ่อนคลาย เหมาะกับการพักผ่อนและการทำงาน และแม้แต่ในประเทศไทยที่สภาพอากาศอาจจะแตกต่างกับแถบสแกนดิเนเวีย ก็สามารถใช้สไตล์นี้เป็นต้นแบบในการเนรมิตห้องทำงานที่บ้านได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบเล็กน้อยเพื่อความเหมาะสมกับสภาพอากาศ
เนรมิตห้องทำงานหรูในฝันด้วยผู้ช่วยอย่าง One Nine One
- How To Style A Home Office. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 จาก https://www.forbes.com/home-improvement/design/how-to-style-home-office/
- Home Office Ideas: 9 Ways To Design A Stylish Workspace .สืบค้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 จาก https://www.tatlerasia.com/homes/decor/sg-home-office-ideas-9-ways-design-inspiring-workspace