1. ตกแต่งภายในสไตล์คลาสสิก
ลักษณะเด่น
สไตล์คลาสสิก (Classic Style) เป็นการตกแต่งที่มีความงดงามและหรูหรา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและสถาปัตยกรรมของยุโรปในยุคโบราณ ลักษณะเด่นของสไตล์นี้คือการใช้ลวดลายและรายละเอียดที่ประณีต เช่น การใช้โคมไฟระย้า กระจกตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายสลักสวยงาม
การเลือกใช้สีและวัสดุ
สไตล์คลาสสิกมักใช้สีที่เรียบง่ายและหรูหรา เช่น สีขาว สีครีม สีทอง และสีบรอนซ์ นอกจากนี้ยังนิยมใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น ไม้เนื้อแข็ง หินอ่อน และผ้ากำมะหยี่ เพื่อสร้างบรรยากาศที่หรูหราและอบอุ่น
การตกแต่ง
การตกแต่งห้องด้วยสไตล์คลาสสิกสามารถใช้ได้ทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และ ห้องนอน โดยสามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายสลักสวยงาม โคมไฟระย้าที่มีดีไซน์คลาสสิก และการจัดวางภาพวาดศิลปะที่มีกรอบหรูหรา หรือประติมากรรมที่มีรายละเอียดการปั้นที่มีความพริ้วไหว เสมือนจริง รายละเอียดชัดเจน เพื่อเพิ่มความงดงามให้กับห้อง
2. ตกแต่งภายในสไตล์ลักชัวรี
ลักษณะเด่น
สไตล์ลักชัวรี (Luxury Style) เป็นการตกแต่งที่เน้นความหรูหราและความอลังการ โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและดีไซน์ที่มีรายละเอียดประณีต สไตล์นี้จะสร้างบรรยากาศที่มีความหรูหราและสวยงามเป็นเอกลักษณ์
การเลือกใช้สีและวัสดุ
สไตล์ลักชัวรีมักใช้สีที่มีความหรูหรา เช่น สีทอง สีเงิน สีบรอนซ์ และสีแชมเปญ วัสดุที่นิยมใช้ในการตกแต่งสไตล์นี้ได้แก่ หินอ่อน กระจก แก้ว และโลหะผสมต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มความอลังการให้กับพื้นที่
การตกแต่ง
ห้องสไตล์ลักชัวรีอาจมีโซฟาหนังแท้ที่มีดีไซน์หรูหรา โต๊ะกลางที่ทำจากหินอ่อน และโคมไฟระย้าที่มีดีไซน์อลังการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผ้าม่านที่มีลวดลายสวยงามและพรมที่มีรายละเอียดประณีตเพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับห้อง
ลักษณะเด่น
สไตล์โมเดิร์น (Modern Style) เป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่ายและความทันสมัย โดยใช้เส้นสายที่เรียบง่ายและรูปทรงที่ชัดเจน ลักษณะเด่นของสไตล์นี้คือการใช้พื้นที่เปิดโล่งและการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นระเบียบ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งมีน้อยชิ้นแต่เน้นความสะดวกสบายและใช้งานได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความโปร่งโล่งและไม่ชอบความยุ่งเหยิง สไตล์นี้ทำให้บ้านดูหรูหรา ทันสมัย เรียบง่ายและสะอาดตา
การเลือกใช้สีและวัสดุ
สไตล์โมเดิร์นมักใช้สีที่เรียบง่ายและมีความเป็นกลาง เช่น สีขาว สีดำ สีเทา และสีเบจ วัสดุที่นิยมใช้ในการตกแต่งสไตล์นี้ได้แก่ กระจก เหล็ก และไม้เนื้อแข็งที่มีพื้นผิวเรียบ
การตกแต่ง
การตกแต่งห้องสไตล์โมเดิร์นอาจใช้โซฟาที่มีดีไซน์เรียบง่าย โต๊ะกลางที่ทำจากกระจก และชั้นวางทีวีที่มีดีไซน์ทันสมัย นอกจากนี้ยังสามารถใช้แสงไฟที่มีดีไซน์โมเดิร์นและการจัดวางภาพวาดที่มีเส้นสายเรียบง่ายเพื่อเพิ่มความทันสมัยให้กับห้อง
3. ตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์น
ลักษณะเด่น
สไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary Style) เป็นการตกแต่งที่เน้นความทันสมัยและเป็นปัจจุบัน โดยใช้ดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่ายและความเป็นระเบียบ ลักษณะเด่นของสไตล์นี้คือการใช้สีที่เป็นกลางและการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์สมัยใหม่
การเลือกใช้สีและวัสดุ
สไตล์คอนเทมโพรารีมักใช้สีที่เป็นกลางและมีความเรียบง่าย เช่น สีขาว สีเทา และสีดำ วัสดุที่นิยมใช้ในการตกแต่งสไตล์นี้ได้แก่ ไม้เนื้อแข็ง กระจก และโลหะผสมที่มีพื้นผิวเรียบ
การตกแต่ง
การตกแต่งห้องในสไตล์คอนเทมโพรารี สามารถเลือกใช้โซฟาที่มีดีไซน์ทันสมัย โต๊ะกลางที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง และโคมไฟที่มีดีไซน์เรียบง่าย นอกจากนี้ยังสามารถใช้การจัดวางภาพวาดหรือประติมากรรมที่มีดีไซน์สมัยใหม่เพื่อเพิ่มความทันสมัยให้กับห้อง
4. ตกแต่งภายในสไตล์คอนเทมโพรารี
ลักษณะเด่น
สไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style) เป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่ายและความอบอุ่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและวัฒนธรรมของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ลักษณะเด่นของสไตล์นี้คือการใช้สีที่เป็นกลางและการใช้วัสดุธรรมชาติ
การเลือกใช้สีและวัสดุ
สไตล์สแกนดิเนเวียนมักใช้สีที่เป็นกลางและมีความอบอุ่น เช่น สีขาว สีเทา สีเบจ และสีฟ้าอ่อน วัสดุที่นิยมใช้ในการตกแต่งสไตล์นี้ได้แก่ ไม้ ผ้าฝ้าย และหนังแท้ที่มีความนุ่มนวล
การตกแต่ง
การตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียนอาจมีโซฟาที่ทำจากหนังแท้ โต๊ะกลางที่ทำจากไม้ และโคมไฟที่มีดีไซน์เรียบง่าย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผ้าม่านที่มีลวดลายหรือโทนสีธรรมชาติและการจัดวางต้นไม้ในบ้าน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติให้กับห้องได้ด้วย
5. ตกแต่งภายในสไตล์สแกนดิเนเวียน
สไตล์การตกแต่งภายในแต่ละสไตล์มีเอกลักษณ์และความสวยงามที่แตกต่างกัน การเลือกใช้สไตล์ที่เหมาะสมกับความต้องการและความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัยจะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีและทำให้พื้นที่นั้นๆ มีความสวยงามและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น