10. แต่งห้องนอนสไตล์มินิมอล (Minimal Style)
Minimal Style มีต้นกำเนิดจากการเคลื่อนไหวทางศิลปะในช่วงทศวรรษ 1960s ที่เน้นความเรียบง่ายและการใช้งานเป็นหลัก การตกแต่งในสไตล์นี้มักจะเน้นที่การใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะเรียบง่ายและใช้งานได้จริง โทนสีที่ใช้มักเป็นสีขาว, สีเทา, และสีดำ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สะอาดและสงบ
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะเรียบง่ายและเน้นการใช้งานได้จริง เช่น เตียงนอนที่เก็บของได้
โทนสี
เลือกใช้โทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีเทา และสีครีม
การตกแต่งเพิ่มเติม
เน้นการใช้งานพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ใช้ของตกแต่งที่ไม่จำเป็น ใช้ต้นไม้ขนาดเล็กหรือของตกแต่งที่มีลักษณะเรียบง่าย หรือสามารถเก็บของเพิ่มความเป็นระเบียบแทน
9. แต่งห้องนอนสไตล์ฮอลลี่วูด แกลม (Hollywood Glam Style)
Hollywood Glam เป็นสไตล์การตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหรูหราของฮอลลีวูดในช่วงยุค 1930s ถึง 1940s สไตล์นี้เน้นความหรูหราและความโดดเด่น การตกแต่งในสไตล์นี้มักจะเน้นที่การใช้วัสดุที่มีความเงางาม เช่น โลหะ, กระจก, และผ้าไหม โทนสีที่ใช้มักเป็นสีขาว, สีดำ, และสีทอง
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความเงางาม เช่น เตียงหนัง ตู้กระจก หรือเก้าอี้โลหะ
โทนสี
เลือกใช้สีขาว สีดำ และสีทอง
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มเติมด้วยของตกแต่งที่มีความหรูหรา เช่น กระจกเงาขนาดใหญ่, โคมไฟระย้า, คิ้วบัวติดผนัง และของตกแต่งที่มีลวดลายเรขาคณิต
8. แต่งห้องนอนสไตล์วิคตอเรียน (Victorian Style)
สไตล์วิคตอเรียน มีต้นกำเนิดจากยุควิคตอเรีย (1837-1901) ในสหราชอาณาจักร เป็นยุคที่ราชินีวิคตอเรียครองราชย์ การตกแต่งในสไตล์นี้มักจะเน้นความหรูหราและประณีต ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีรายละเอียดการแกะสลักที่ซับซ้อน โทนสีที่ใช้มักเป็นสีแดงเข้ม สีม่วง และสีทอง
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีการแกะสลักโชว์ลวดลายความสวยงามและปราณีต เช่น ตู้โชว์แกะสลัก โต๊ะเขียนหนังสือสไตล์วิคตอเรียนหรือโซฟาหนัง
โทนสี
เลือกใช้สีแดงเข้ม สีม่วง และสีทอง
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มเติมด้วยผ้าม่านที่มีลวดลายละเอียดดอกไม้ตั่งต่าง พรมขนสัตว์ และของตกแต่งที่มีความหรูหรา เช่น โคมไฟคริสตัลและรูปภาพวาดที่มีกรอบทอง
7. แต่งห้องนอนสไตล์วินเทจ (Vintage Style)
สไตล์วินเทจ เป็นการตกแต่งที่นำเสน่ห์แห่งอดีตมาผสมผสานกับความทันสมัย มีจุดเริ่มต้นจากการนำเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเก่ามาใช้ใหม่ โดยเฉพาะในช่วงยุค 1920s ถึง 1970s โทนสีที่ใช้มักเป็นสีพาสเทล เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน หรือสีเขียวมิ้นต์
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะคล้ายยุคเก่า เช่น เตียงไม้ โซฟาผ้าลายทางหรือลวดลายอื่นๆ
โทนสี
เลือกใช้สีพาสเทล เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน หรือโทนสีเข้ม เช่น สีน้ำตาลวอลนัท สีเขียวขี้ม้า
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มให้บรรยากาศวินเทจขึ้นได้ด้วย เช่น นาฬิกาแขวน กรอบรูปไม้ และของตกแต่งที่ทำจากเหล็กหล่อ
6. แต่งห้องนอนสไตล์ดั้งเดิม (Traditional Style)
Traditional Style หรือสไตล์ดั้งเดิม เป็นการตกแต่งที่นำเสนอความงามและความสง่างามในแบบดั้งเดิม ที่มีรากฐานมาจากยุโรปในศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยการเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีรายละเอียดการแกะสลักที่ละเอียดอ่อน
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
เลือกใช้เตียงนอนที่มีหัวเตียงแกะสลัก และตู้ที่มีการโชว์รายละเอียด เช่น ลิ้นชักที่มีมือจับทองเหลือง
โทนสี
ใช้โทนสีขาว เบจ และน้ำตาลอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสว
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มโคมไฟคริสตัล รูปภาพกรอบทอง และของตกแต่งที่มีดีเทลคลาสสิก พรมพื้นใหญ่และผ้าม่านที่มีลวดลายเล็กน้อย
5. แต่งห้องนอนสไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style)
สไตล์สแกนดิเนเวียนเน้นความอบอุ่นและเรียบง่าย ใช้สีโทนอ่อน หรือสีธรรมชาติ เช่น สีขาว และเบจ ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้และของตกแต่งที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
เตียงนอนไม้ ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของที่ทำจากไม้สีอ่อน
โทนสี
ใช้สีขาว เบจ และน้ำตาลอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้าง สว่างและเรียบง่าย
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มพรมโทนสีเรียบง่าย ลายเส้นหรือผ้าทอ ใช้ผ้าห่มถักมือ โคมไฟที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือต้นไม้ในกระถางเล็กๆ
4. แต่งห้องนอนสไตล์คอนเทมโพรารี่ (Contemporary Style)
สไตล์ Contemporary เน้นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความอบอุ่น ใช้สีโทนอ่อนและเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่ทันสมัย สร้างบรรยากาศที่สบายตาและอบอุ่น
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เตียงนอนที่มีดีไซน์ทันสมัยและเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน หรือตู้เสื้อผ้าที่มีเส้นสายชัดเจน
โทนสี
เลือกใช้สีขาว เทา และน้ำตาลอ่อน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเรียบง่าย
การตกแต่งเพิ่มเติม
พรมขนสัตว์ โคมไฟดีไซน์เรียบง่าย และภาพวาดหรือภาพถ่ายที่มีสีสันโทนอ่อน
3. แต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
สไตล์โมเดิร์นเน้นการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย ใช้เส้นสายที่ชัดเจนและสีที่เรียบง่าย เช่น สีขาว, ดำ และเทา เพื่อสร้างบรรยากาศที่สบายตา ทันสมัย และมีระเบียบ
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เตียงนอนที่มีดีไซน์ทันสมัยและเรียบง่าย เช่น เตียงนอนที่ไม่มีหัวเตียง หรือเตียงที่มีรูปทรงเรขาคณิต
โทนสี
เลือกใช้สีขาว ดำ และเทา เพื่อให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสว
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มโคมไฟดีไซน์ทันสมัย และของตกแต่งที่มีลักษณะเป็นเส้นสาย เช่น โปสเตอร์ศิลปะและต้นไม้ในกระถางเรียบๆ
2. แต่งห้องนอนสไตล์ลักซ์ซูรี (Luxury Style)
สไตล์ Luxury เน้นความหรูหราและมีระดับ ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและมีความเงางาม เช่น หินอ่อน, ผ้าไหม และโลหะสีทอง การตกแต่งในสไตล์นี้มักจะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์โดดเด่นและเน้นรายละเอียดที่ประณีต
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
ใช้เตียงนอนที่มีหัวเตียงหุ้มผ้าไหม โต๊ะข้างเตียงที่ทำจากหินอ่อน หรือประดับด้วยทองเหลือง
โทนสี
เลือกใช้สีทอง สีเงิน และสีขาว เพื่อสร้างบรรยากาศที่หรูหราและมีระดับ
การตกแต่งเพิ่มเติม
เลือกใช้โคมไฟคริสตัล ผ้าม่านที่ทำจากผ้าไหม และของตกแต่งภายในที่มีความเงางาม เช่น มือจับประตู มือจับเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ฟิตติ้ง กระจกเงาขนาดใหญ่ และแจกันดอกไม้สด
1. แต่งห้องนอนสไตล์คลาสสิก (Classic style)
สไตล์คลาสสิกเน้นความเรียบง่ายแต่สง่างาม การตกแต่งแบบนี้จะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีรายละเอียดการแกะสลักและสีโทนอ่อน เช่น สีขาวและสีเบจ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและหรูหรา
ไอเดียการตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์
เลือกใช้เตียงนอนที่มีหัวเตียงแกะสลัก และตู้เสื้อผ้าที่มีรายละเอียด เช่น ลิ้นชักที่มีมือจับทองเหลือง
โทนสี
ใช้โทนสีขาว เบจ และน้ำตาลอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสว
การจัดวาง
เน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
การตกแต่งเพิ่มเติม
เพิ่มโคมไฟคริสตัล รูปภาพกรอบทอง พรมพื้นใหญ่และผ้าม่านที่มีลวดลายเล็กน้อย และของตกแต่งที่มีดีเทลคลาสสิก
การตกแต่งห้องนอนเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถช่วยให้คุณมีบรรยากาศที่ดีในการพักผ่อน การเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเองจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์คลาสสิกที่เรียบง่ายและสง่างาม สไตล์ Luxury ที่หรูหราและมีระดับ หรือสไตล์โมเดิร์นที่ทันสมัยและเรียบง่าย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมีไอเดียในการตกแต่งห้องนอนในฝันของคุณให้เป็นจริงได้ง่ายขึ้น
