ข้อควรรู้ก่อนเริ่มแต่งห้องพระในบ้านสไตล์โมเดิร์น
ก่อนที่จะเริ่มต้นออกแบบห้องพระในบ้านสไตล์โมเดิร์นนั้นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือเรื่องของการแต่งห้องพระให้ถูกต้องตามหลักความเชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล และช่วยเสริมความสงบสุขภายในบ้าน ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ขั้นตอนวางแปลนห้องพระในบ้าน เพื่อให้ห้องพระต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมากที่สุด ดังนี้ :
1. ห้องพระควรอยู่ในตำแหน่งที่สงบและปลอดโปร่ง
การใช้ห้องพระนั้นต้องเต็มไปด้วยความสงบ มีแสงสว่างส่องถึง และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรให้อยู่ในจุดที่เข้าไปใช้พื้นที่แล้วรู้สึกอึดอัด ไม่สงบ มีทั้งกลิ่นและเสียงรบกวน
2. หลีกเลี่ยงตำแหน่งที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ
ตำแหน่งของห้องพระที่ดีนั้นไม่ควรอยู่ใกล้ห้องน้ำ หากจำเป็นควรมีฉากกั้นระหว่างห้องพระกับห้องน้ำ และไม่ควรให้ตำแหน่งของหิ้งพระอยู่ชิดผนังเดียวกันกับชักโครก
3. ห้องพระควรอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน
พระเป็นของสูง ไม่ควรทำห้องพระที่ชั้นล่างหรือบริเวณที่ต้องเดินผ่านขึ้นชั้นบน หากทำได้ควรเลือกตำแหน่งที่เงียบสงบ ไม่เป็นเส้นทางที่มีคนผ่านตลอดทั้งวัน
4. หลีกเลี่ยงการหันหัวเตียงไปห้องพระ
หากต้องวางตำแหน่งของโต๊ะหมู่บูชาในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับที่นอน ไม่ควรให้องค์พระอยู่ติดกับหัวเตียง แต่ถ้าไม่มีตำแหน่งอื่นแนะนำให้มีการกั้นห้อง หรือกั้นโซนสำหรับเป็นที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชา
5. หลีกเลี่ยงการตั้งหิ้งพระที่ปลายเท้า
เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเพราะพระเป็นของสูง ดังนั้นไม่ควรหันปลายเท้าไปทางหิ้งพระโดยเด็ดขาด หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ต้องมีการทำฉากหรือผนังกั้นห้องพระให้แบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน
เคล็ดลับออกแบบห้องพระให้เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น
เมื่อวางแปลนห้องพระในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มีไอเดียกั้นห้องพระ หรือแบบห้องพระสวย ๆ ไว้เป็นแนวทางก่อนว่าจ้างบริษัทรับตกแต่งภายใน ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการเลือกรายละเอียดต่าง ๆ ที่ใช้ในการออกแบบห้องพระสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
1. เลือกโทนสีเรียบง่าย
ห้องพระคือสถานที่ที่มีความเงียบสงบ การเลือกสีห้องพระจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีภายในห้องพระได้ โดยสีที่ควรเลือกใช้ในการตกแต่งห้องพระให้เข้ากับบ้านโมเดิร์น คือ สีขาว สีครีม และสีเทาอ่อน ซึ่งเป็นกลุ่มสีที่บ่งบอกถึงความสงบร่มเย็น และยังเป็นสีโทนกลางที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับหิ้งพระได้ ที่สำคัญคือสีโทนสว่างจะช่วยอำพรางสายตาให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัด
2. เลือกใช้วัสดุธรรมชาติ
เพื่อให้ได้แบบห้องพระที่สวยสงบ มีมนต์ขลัง และยังเข้ากับบ้านโมเดิร์นได้ ควรเลือกรายละเอียดในการตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติ จะช่วยให้ห้องพระดูสงบและอิงแอบไปกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว เช่น กรอบหน้าต่างไม้ พื้นลามิเนต หรือวัสดุที่เป็นลายไม้ ลายหินอ่อน วัสดุเหล่าที่บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติจะช่วยเติมเต็มบรรยากาศของห้องพระที่เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่เรียบหรูและคลาสสิก
3. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย
บรรยากาศของห้องพระสวย ๆ นั้นต้องเต็มไปด้วยความสงบ สบายและมีมนต์เสน่ห์ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ต้องเน้นความเรียบง่าย เป็นแบบโปร่งที่ยังคงนำเสนอด้วยดีไซน์แบบโมเดิร์น เช่น โต๊ะหมู่บูชาหรือเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นอื่น ๆ ที่มีดีไซน์แบบเหลี่ยมและโล่ง ทั้งนี้ควรเลือกใช้สีที่เรียบง่ายควบคู่ไปด้วย อย่างสีขาวหรือครีม เพื่อให้ภาพรวมสีห้องพระนั้นอยู่ในโทนคลีน สะอาด สว่าง ผ่อนคลาย ไม่หลุดคอนเซปต์สไตล์โมเดิร์น แต่สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ห้องพระจำกัดอาจลดทอนจำนวนของตกแต่งแล้วเลือกใช้วิธีแบบบิวท์อินแทนการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวได้
4. เพิ่มความสว่างจากแสงธรรมชาติ
การตกแต่งห้องพระนั้นนอกจากองค์ประกอบของสี และดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์แล้ว ควรเพิ่มเติมเรื่องของการเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกด้วยหน้าต่างบานใหญ่ สามารถลดความเข้มและความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยผ้าม่านโปร่งสีขาวเพื่อให้แสงมีความนุ่มนวล นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมได้ด้วยโคมไฟตั้งพื้น หรือไฟ LED แบบซ่อนโดยเลือกใช้แสงโทนอุ่นจะช่วยเพิ่มความสงบและบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์ได้
5. ตกแต่งด้วยสิ่งของที่ช่วยสร้างบรรยากาศ
นอกจากหาไอเดียกั้นห้องพระสวย ๆ ให้เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นแล้ว การสร้างบรรยากาศภายในห้องพระเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศได้เป็นอย่างดี ด้วยการตกแต่งห้องพระจากกระถางต้นไม้ขนาดเล็ก แจกันใส่ดอกไม้ถวายพระที่มีคู่สีสวย ๆ รวมถึงการตกแต่งผนังห้องด้วยสีโทนเย็น แต่การตกแต่งภายในห้องพระไม่ควรมีของตกแต่งมากเกินไปจนทำให้ความขลังลดลงรวมถึงการหยิบคู่สีที่ฉูดฉาดมาใช้ก็อาจทำให้ความขลังของห้องพระลดลงไปด้วย
ออกแบบห้องพระให้สวยได้ทุกสไตล์ แค่ใส่ใจในรายละเอียด
การออกแบบห้องพระให้เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปถ้าได้ลองใช้เวลาพิถีพิถันกับการเลือกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จากอุปกรณ์ตกแต่ง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ และสีห้องพระให้เหมาะสม ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่สไตล์โมเดิร์นเท่านั้นที่สามารถนำเอาเคล็ดลับนี้ไปปรับใช้ได้ แต่ในทุก ๆ สไตล์ของบ้านก็สามารถนำไปใช้เป็นไอเดียกั้นห้องพระหรือตกแต่งห้องพระสวย ๆ ให้ตรงกับความต้องการได้เช่นกัน
ใครที่ยังไม่แน่ใจกับแนวทางในการแต่งห้องพระก็สามารถปรึกษากับทางบริษัทรับตกแต่งภายในเพิ่มเติมเพื่อหาไอเดียและตัวอย่างใหม่ ๆ ไว้ประกอบการตัดสินใจได้เช่นกัน สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเลือกทำห้องพระสไตล์ไหนก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการใช้งานจริงกันด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ผลงานออกแบบตกแต่งภายในห้องพระของ One Nine One Interior Design and Decor