
1. กำหนดความต้องการและสไตล์ก่อน
ก่อนเริ่มต้นค้นหาบริษัท Interior Design ผู้ว่าจ้างต้องพิจารณาถึงความต้องการและสไตล์ของงานออกแบบภายในเป็นอันดับแรก เพราะความต้องการและสไตล์การออกแบบภายในเป็นส่วนสำคัญที่ต้องสื่อสารให้บริษัทรับบิ้วอินเข้าใจเป็นอันดับแรก เช่น การแต่งห้องนอนสไตล์ Modern Luxury, ห้องครัวสวย ๆ แบบ Modern Classic หรือแต่งบ้านสไตล์ Modern Minimal การออกแบบภายในด้วยสไตล์เหล่านี้จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจจากผู้ออกแบบ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลงานที่ตรงใจมากที่สุด ดังนั้นต้องมีการกำหนดสไตล์และความต้องการให้ชัดเจนก่อนทุกครั้ง
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : ยกระดับความหรูหรา เสริมบรรยากาศ Luxury ในห้องครัว

2. ตรวจสอบประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา
เลือกบริษัทรับตกแต่งภายในบ้านที่มีผลงานเป็นรูปธรรมที่ตรวจสอบได้ เช่น โครงการที่ผ่านมาในอดีต อาจเลือกดูจากภาพผลงานที่อยู่บนเพจหรือเว็บไซต์เพื่อประเมินคุณภาพการออกแบบ และยังช่วยให้ตรวจสอบได้ว่าบริษัทรับออกแบบภายในที่คุณกำลังตัดสินใจเลือกอยู่นั้น มีความเชี่ยวชาญในงานรับบิ้วอิน หรือ รับเหมาตกแต่งภายใน ที่คล้ายกับความต้องการของผู้ว่าจ้างหรือไม่

3. อ่านรีวิวและสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้าเก่า
ในปัจจุบันสามารถเข้าถึงรีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้าเก่าได้ง่าย เช่น ผ่านโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์รีวิว ซึ่งเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยพิจารณาเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ และผลงานที่ผ่านมาได้ นอกจากการอ่านรีวิวแล้ว หากสามารถทำการติดต่อสอบถามจากลูกค้าเก่าได้ก็จะยิ่งช่วยให้เข้าใจถึงขั้นตอน รูปแบบการทำงาน และคำแนะนำเกี่ยวกับบริษัท Interior Design ได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็สามารถนำมาใช้ประเมินความเป็นมืออาชีพได้เช่นกัน

4. เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้
เนื่องจากเป็นงานที่เกี่ยวกับโครงสร้างภายใน บริษัทรับบิ้วอินหรือตกแต่งบ้านจึงต้องมีความน่าเชื่อถือ รับรองได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งวิธีตรวจสอบที่ช่วยให้มั่นใจในเรื่องนี้ได้มากที่สุด คือการเลือกบริษัทอินทีเรีย ดีไซน์ ที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และในการว่าจ้างจะต้องมีการกำหนดขั้นตอน รายละเอียดของงาน บริการที่หลากหลาย รวมถึงการเซ็นสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ความน่าเชื่อถือของผู้รับเหมาตกแต่งภายในคือส่วนสำคัญที่การันตีได้ถึงคุณภาพและความเป็นมืออาชีพ
บริการของ One Nine One Interior Design and Decor
Interior Design ออกแบบตกแต่งภายใน

5. เปรียบเทียบราคาและงบประมาณ
หากต้องการให้บริษัทไหนเข้ามาทำงานเกี่ยวกับการตกแต่งภายในให้บ้านในฝัน ต้องไม่ลืมที่จะขอใบเสนอราคาจากบริษัทต่าง ๆ มาเปรียบเทียบเพื่อดูว่าบริษัทใดให้บริการที่คุ้มค่าที่สุด ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการเลือกบริษัทที่ราคาถูกเกินไปเพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพของงานได้ ทางที่ดีแนะนำให้ลองหาราคากลางเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ เพื่อประเมินดูว่าบริษัทนั้น ๆ มีการเสนอราคาที่สูงเกินจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบเบื้องต้นจากวิธีคำนวณค่าใช้จ่ายในงาน Interior Design เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของราคาก่อนตัดสินใจว่าจ้างได้

6. อย่าลืมสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงาน
โดยปกติผู้ว่าจ้างอาจมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ และขั้นตอนการออกแบบภายในน้อยกว่าบริษัทรับตกแต่งบ้าน การสอบถามข้อมูลในเรื่องของขั้นตอนการทำงานเป็นวิธีที่ช่วยให้ทราบถึงความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของผู้ให้บริการได้ เช่น มีรูปแบบขั้นตอนการทำงานที่เริ่มจากการวางแบบ วิเคราะห์โครงสร้าง การสร้างภาพจำลอง การดำเนินการติดตั้ง และส่งมอบงาน ซึ่งการทำงานจริงบริษัทรับออกแบบภายในจะต้องดำเนินการทีละขั้นตอนตามที่ตกลง และในแต่ละขั้นตอนผู้ว่าจ้างเองก็สามารถตรวจสอบความถูกต้องเพื่อลดการแก้ไขในภายหลังที่อาจเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

7. ข้อตกลงในการว่าจ้าง
เรื่องสำคัญอีกอย่างในการผู้รับเหมาหรือบริษัทรับบิ้วอินคือการทำข้อตกลงในการว่าจ้างให้เรียบร้อย ซึ่งบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพจะมีการทำสัญญาอย่างชัดเจน และในข้อตกลงของการคิดค่าบริการนั้นต้องมีการระบุเอาไว้ให้ชัดเจนว่าเป็นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในด้านใดบ้าง เช่น
- ค่าใช้จ่ายในการออกแบบ : สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นการเก็บค่าบริการเกี่ยวกับงานออกแบบ การร่างโครงสร้างของงาน Interior Design รวมถึงค่างานออกแบบสไตล์ 3D
- ค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง : ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการตกแต่งและติดตั้ง เช่น ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าวัสดุสำหรับติดผนัง เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง : การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการตกลงให้บริษัทรับตกแต่งภายในเข้ามาดำเนินการ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นค่าแรงในการดำเนินงาน

8. ตรวจสอบการรับประกันหลังการบริการ
บริษัทรับเหมาตกแต่งภายในที่น่าเชื่อถือควรมีการรับประกันงานหลังการส่งมอบ เช่น การซ่อมแซมงานที่มีปัญหาในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ว่าจ้างในเรื่องคุณภาพของงาน และยังบอกได้ถึงความรับผิดชอบของบริษัทรับบิ้วอิน ซึ่งนอกจากมั่นใจแล้วยังเป็นการเพิ่มความสบายใจให้กับผู้ว่าจ้างได้อีกด้วย

9. ระยะเวลาและการติดตามงาน
สุดท้ายคือเรื่องของระยะเวลาในการทำงาน ซึ่งทางบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในที่มีความเชี่ยวชาญจะต้องมีการกำหนดระยะเวลาดำเนินงานอย่างชัดเจนและมีความตรงต่อเวลา นอกจากนี้ผู้ว่าจ้างต้องสามารถติดตามงานได้เพื่อสอบถามความคืบหน้าของงานได้

เลือกบริษัท Interior Design ที่ตรงใจ เคล็ดลับสำหรับ “บ้านในฝัน”
การเลือกบริษัท Interior Design คือหนึ่งในเคล็ดลับสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งภายในให้เป็นบ้านในฝัน แต่เพื่อให้เลือกได้ตรงใจก็ต้องคำนึงถึงความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ และงบประมาณ เพื่อให้งานออกแบบภายในบ้านของคุณออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งนี้ก็สามารถนำเคล็ดลับทั้ง 9 ข้อนี้ไปลองใช้ในการพิจารณาบริษัทรับบิ้วอิน หรืองานออกแบบตกแต่งภายในให้ตรงใจได้
แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อยตามหา ให้เรา One Nine One Interior Design and Decor บริษัทตกแต่งภายในที่ตอบโจทย์ พร้อมให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในหลากหลายสไตล์ สามารถ ติดต่อเรา เพื่อปรึกษาได้ทันที
เลือกชมผลงานที่ผ่านมาได้ทาง : รวมผลงานออกแบบภายใน One Nine One Interior Design and Decor