เทคนิคจัดแสงตามมาตรฐานความสว่างภายในบ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศและตอบโจทย์การใช้งาน

ทำไมการตกแต่งภายใน ต้องให้ความสำคัญกับ “มาตรฐานความสว่างภายในบ้าน”

เชื่อว่าหลายคนคงเคยสังเกตเห็นว่าหนึ่งในเอกลักษณ์ของการตกแต่งภายในบ้านหรูก็คือ มาตรฐานความสว่างภายในบ้านที่ถูกจัดแต่งเอาไว้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นโถงทางเดิน ห้องนั่งเล่นห้องนอน หรือห้องครัว ก็ล้วนแต่มีการจัดไฟที่สวยงาม สบายตา และเข้ากับบรรยากาศของแต่ละห้องได้เป็นอย่างดี นี่เองที่ทำให้แสงสว่างในบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความ Luxury ที่นักออกแบบมักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการตกแต่งภายในบ้าน

ข้อดีของการตกแต่งภายในด้วยวิธีจัดไฟ

การจัดแสงไฟตามมาตรฐาน ไม่เพียงแค่ให้ประโยชน์ในเรื่องของความสว่างเท่านั้น แต่ยังมีข้อดีในมุมของงานInterior Design ดังนี้

• สร้างบรรยากาศและอารมณ์ :แสงไฟอ่อน ๆ สบายตาช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อน ส่วนแสงสว่างที่ชัดเจนช่วยเพิ่มสมาธิและการจดจ่อที่ดี
• ขับความสวยงามของสถาปัตยกรรมและพื้นผิว :การจัดแสงในมุมที่ส่องกระทบกับหินอ่อน เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรืองานปั้นที่มีพื้นผิวมันวาว ช่วยขับความสวยงามของชิ้นงานได้
• เพิ่มมิติให้กับพื้นที่ :การเล่นกับแสงและเงาช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นสร้างมิติและจุดนำสายตาให้แต่ละพื้นที่ภายในบ้านดูโดดเด่นได้อย่างมีชั้นเชิง
• เพิ่มฟังก์ชันและรองรับไลฟ์ไสตล์ :ในบางมุมของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนความสว่างเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานได้ เช่น แสงสลัวผ่อนคลายสำหรับวันที่ต้องการดินเนอร์ส่วนตัว หรือแสงสว่างที่ชัดเจนสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว

อ่านบทความที่น่าสนใจ :12 เรื่องต้องรู้ ก่อนเริ่มออกแบบตกแต่งภายในบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ สำหรับคนซื้อบ้านใหม่ให้ครบวงจร

มาตรฐานความสว่างภายในบ้าน กับการจัดไฟ 3 ประเภท

สำหรับมาตรฐานความสว่างภายในบ้านนั้นสามารถเลือกจัดแสงไฟได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักดังนี้

1. ไฟส่องสว่างทั่วไป (Ambient Lighting)

การจัดแสงแบบAmbient Lighting คือรูปแบบจัดไฟที่เป็นมาตรฐานแสงสว่างภายในบ้าน เป็นการออกแบบแสงไฟให้สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เน้นระดับแสงเพื่อการใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก การจัดแสงไฟแบบ Ambient Lighting ที่นิยมใช้ในการตกแต่งภายในสามารถใช้ได้ทั้งโคมไฟตั้งพื้น โคมไฟระย้า และไฟติดเพดาน และการจัดแสงไฟประเภทนี้ยังสามารถใช้ออกแบบได้ทั้งภายในและภายนอกตัวบ้าน

2. ไฟส่องเน้น (Accent Lighting)

การจัดแสงแบบAccent Lighting คือการใช้แสงไฟส่องเน้นไปยังวัตถุที่ต้องการเพื่อสร้างจุดเด่นที่ดึงดูดสายตา นิยมใช้ในการตกแต่งภายในบ้านหรูเช่น การส่องเน้นไปที่งานศิลปะ รูปปั้น หรือผิวของวัสดุตกแต่งภายในบ้าน สามารถเลือกใช้ได้ทั้งไฟแบบฝังเพดาน ไฟแขวนผนัง ไฟราง และสปอร์ตไลท์ นอกจากใช้ภายในบ้านแล้ว ยังสามารถใช้จัดแสงไฟภายนอกได้ สำหรับส่องเน้นที่ทางเดิน สวน ต้นไม้ ระเบียงบ้าน หรือสระว่ายน้ำ ช่วยสร้างบรรยากาศที่สวยงามและหรูหรา

3. ไฟส่องเฉพาะ (Task Lighting)

สำหรับการจัดแสงไฟแบบTask Lighting คือการจัดให้มีแสงสว่างส่องเฉพาะที่ เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมเฉพาะเช่น ใช้คอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ ทำอาหาร หรืองานฝีมือ นิยมใช้เป็นรูปแบบ ไฟห้อยเพดาน ไฟเส้นหรือดาวไลท์ และโคมไฟตั้งโต๊ะ โดยไฟส่องเฉพาะจะแตกต่างจาก Accent Lighting ตรงที่ระดับความสว่างจะไม่ให้แสงจ้าจนเกินไป และไม่นิยมใช้ระดับแสงที่ทำให้เกิดเงาอย่างชัดเจน สำหรับการใช้ภายนอกจะใช้เพียงบางจุด เช่น ไฟผนังรอบบ้าน ไฟหัวเสา หรือไฟส่องสว่างเมื่อต้องใช้ครัวนอกบ้าน

One Nine One Discreet Luxury Interior Design มีบริการออกแบบแสงสว่างในบ้านโดยนักออกแบบมืออาชีพ ช่วยเพิ่มความสวยงามและรองรับการใช้งานจริงได้ทุกพื้นที่ติดต่อเรา หรือเลือกดูตัวอย่างงานออกแบบได้ที่ผลงานของเรา

เคล็ดลับจัดไฟตามมาตรฐานความสว่าง ช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้าน

การจัดแสงไฟให้ได้มาตรฐานความสว่างภายในบ้าน สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการจัดแสงแบบ Ambient Lighting ที่ให้แสงสว่างอย่างเหมาะสม และตอบโจทย์กับการใช้งานในทุกช่วงเวลาแต่หากต้องการเพิ่มบรรยากาศที่ลงตัว และช่วยสร้างเสน่ห์ให้บ้านดูหรูหรามากยิ่งขึ้น สามารถนำเคล็ดลับต่อไปนี้ ไปปรับใช้ในการจัดแสงสว่างภายในบ้านของคุณได้

1. ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นคือพื้นที่สำคัญที่คนในบ้านจะได้ใช้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว และยังสามารถใช้เป็นพื้นที่รับแขกได้การจัดแสงสว่างในห้องนั่งเล่นจึงเหมาะกับแสงแบบ Ambient Lighting มากที่สุด และหากมีการตกแต่งภายในด้วยตู้โชว์ หรืองานปั้น ก็สามารถเพิ่มเติมได้ด้วยแสงแบบ Accent Lighting เพื่อสร้างความโดดเด่นได้

2. ห้องนอน

ห้องนอนเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อน บรรยากาศภายในห้องนอนจึงต้องรู้สึกผ่อนคลายเพื่อการนอนหลับที่ดีการจัดแสงไฟที่เหมาะสมคือแบบ Ambient Lighting โดยใช้หลอดไฟสีแบบ Warm White หรือ Cool White เพื่อให้แสงที่สบายตา และเพิ่มเติมด้วยการจัดไฟแบบ Task Lighting บริเวณหัวเตียงเพื่อใช้ในช่วงก่อนเข้านอน

3. ห้องครัวและห้องอาหาร

สำหรับห้องครัวควรเลือกใช้แสงสว่างที่เพียงพอเพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน อาจเลือกติดตั้งในรูปแบบไฟส่องสว่างทั่วไปแล้วเสริมด้วยการจัดแสงไฟแบบ Task Lighting ในจุดที่ต้องประกอบอาหาร ส่วนบริเวณที่ใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารอาจเลือกเป็นหลอดไฟที่ให้แสงแบบ Warm White เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง แต่อาจเน้นที่ดีไซน์ของโคมไฟ เช่น โคมระย้าคริสตัล ในการตกแต่งภายในบ้านให้ดูหรูหรามากขึ้น

4. ห้องน้ำ

ห้องน้ำที่มีขนาดเล็ก ควรจัดแสงให้สว่างเพียงพอและมีระดับความสว่างที่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดดวงไฟขนาดเล็กบริเวณรอบกระจก หรือเป็นไฟแบบซ่อนผนังเพื่อให้ดูโดดเด่น ส่วนห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่และแบ่งสัดส่วนของพื้นที่แห้งและเปียกอย่างชัดเจนสามารถเลือกจัดแสงไฟแบบ Ambient Lighting ในพื้นที่แห้ง ส่วนบริเวณพื้นที่เปียกอาจใช้การจัดแสงแบบ Task Lighting เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

5. รอบตัวบ้าน

สำหรับบ้านที่มีการจัดสวน หรือพื้นที่ทางเดินรอบตัวบ้าน การจัดไฟในรูปแบบ Task Lighting ผสมผสานกับ Accent Lighting ในบางจุดจะช่วยเพิ่มความสวยงามและน่าสนใจให้กับบริเวณได้เช่น ทางเดินรอบตัวบ้านเลือกใช้การจัดแสงแบบ Task ส่วนบริเวณต้นไม้และสวน ให้จัดแสงแบบ Accent ก็จะช่วยคุมบรรยากาศที่สงบ เป็นส่วนตัว แต่ดึงดูดสายตาได้ดี

ข้อควรรู้ก่อนวางแผนจัดไฟในการตกแต่งภายใน

การจัดไฟตามมาตรฐานความสว่างภายในบ้านเพื่อใช้งาน สร้างบรรยากาศ และเพื่อการตกแต่งภายในที่สวยงาม มีสิ่งที่ต้องรู้ก่อนวางแผนจัดแสงไฟ ดังนี้

• การมองเห็นและความปลอดภัย :แสงไฟคือสิ่งที่ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้น เพราะช่วยให้มองเห็นในเวลากลางคืน และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย ดังนั้นควรเลือกระดับความสว่างให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานมากที่สุด
• เลือกประเภทแสงและหลอดไฟให้เหมาะกับพื้นที่ :เพื่อดึงประสิทธิภาพของการใช้แสงสว่างให้มากที่สุด ควรเลือกประเภทของแสงและหลอดไฟให้เหมาะสม เช่น เลือกใช้แสง Warm Light ในห้องทำงานเพื่อเพิ่มสมาธิและลดความผิดพลาด
• การออกแบบและติดตั้ง :ก่อนติดตั้งควรวางแผนจุดติดตั้งโคมไฟ หลอดไฟ และลักษณะของการให้แสงสว่างอย่างละเอียด เช่น เลือกใช้ไฟซ่อนฝ้าเพดานบริเวณโถงทางเดินเพื่อสร้างจุดนำสายตา หรือการใช้โคมไฟตั้งพื้นบริเวณห้องนั่งเล่นเพื่อให้รองรับกับการตกแต่งภายในบ้านสไตล์ Modern Luxury

รังสรรค์พื้นที่ในฝันด้วยแสงที่ใช่กับ One Nine One Discreet Luxury Interior Design

การออกแบบมาตรฐานแสงสว่างภายในบ้าน เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญในการตกแต่งภายในเพราะส่งผลต่ออารมณ์และสุทรียภาพของบ้าน ดังนั้น ในการวางแผนออกแบบและตกแต่งภายในบ้านหรู หรือบ้านสไตล์ต่าง ๆ จำเป็นต้องเข้าใจการจัดแสงทั้ง 3 ประเภท ควบคู่ไปกับการเลือกประเภทของหลอดไฟ ความสว่าง และอุณหภูมิสี เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งด้านความสวยงามและตอบโจทย์การใช้งานจริง

สำหรับท่านที่อยากเพิ่มบรรยากาศด้วยการจัดแสงสว่างภายในบ้านOne Nine One Discreet Luxury Interior Design พร้อมให้คำปรึกษาโดยนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ เพราะสำหรับเรา แสงสว่างไม่ใช่แค่การเลือกหลอดไฟ แต่คือผลงานที่ต้องสามารถถ่ายทอดไลฟ์สไตล์และสะท้อนตัวตนเจ้าของบ้าน พร้อมทั้งสามารถรองรับกับการใช้งานได้จริง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-430-6789 หรือแอดไลน์@1nine1