คูลทั่วหน้า! 10 ไอเดียช่วยบ้านเย็น เพิ่มบรรยากาศอยู่ อากาศร้อนแค่ไหนก็สู้ไหว

ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด การมีบ้านที่เย็นสบายไม่เพียงแต่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านของเราด้วย การทำให้บ้านเย็นสบายไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแอร์หรือพัดลมตลอดเวลา หากเราปรับใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพก็สามารถช่วยลดความร้อนและทำให้บ้านของเราสบายขึ้นได้อย่างยาวนาน

วันนี้เรามี 10 วิธีทำให้บ้านเย็น ที่จะทำให้บ้านของทุกคนเย็นสบายและดูดีไปพร้อมกัน ไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหนก็สู้ไหว!

- เลือกอ่าน

วิธีทำให้ห้องเย็น บ้านปูนเป็นวัสดุที่เหมาะสม

1. เลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม

การเริ่มต้นสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านด้วยการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม เปรียบเสมือนการวางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อรับมือกับสภาพอากาศร้อนระอุของเมืองไทย วัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการนำพาและกักเก็บความร้อนที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • หลีกเลี่ยงวัสดุดูดซับความร้อนสูง

    วัสดุบางชนิด เช่น ผนังคอนกรีตหนาโดยไม่มีฉนวน อาจดูดซับความร้อนในเวลากลางวันและคายความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ทำให้บ้านอบอ้าว
  • มองหาวัสดุที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน

    วัสดุที่มีพื้นผิวสีอ่อนหรือมีการเคลือบสารสะท้อนความร้อนจะช่วยลดปริมาณความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านได้ดี หลังคาที่มีฉนวนกันความร้อนและแผ่นสะท้อนความร้อนเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

  • พิจารณาวัสดุที่มีรูพรุน

    วัสดุบางชนิด เช่น อิฐบล็อกที่มีรูพรุน หรือผนังเบาที่มีช่องว่างภายใน จะช่วยให้เกิดการถ่ายเทอากาศและลดการสะสมความร้อนได้

  • ให้ความสำคัญกับฉนวนกันความร้อน

    การติดตั้งฉนวนกันความร้อนบริเวณหลังคา ผนัง และใต้พื้น เป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันความร้อนจากภายนอกและความเย็นจากภายในไม่ให้สูญเสียไป วัสดุฉนวนมีให้เลือกหลากหลาย เช่น ใยแก้ว โฟม หรือแผ่น PE

  • อย่ามองข้ามวัสดุธรรมชาติ

    ไม้เป็นวัสดุที่ไม่นำความร้อนมากนัก และยังให้ความรู้สึกเย็นสบายตา การนำไม้มาใช้ในการตกแต่งภายในหรือเป็นส่วนประกอบของบ้านจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยลดภาระการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศในระยะยาว และสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เย็นสบาย น่าอยู่ แม้ในวันที่อากาศภายนอกจะร้อนจัดก็ตาม

บ้านเย็นสบายเพียงใช้ม่านกันแสง

2. การติดตั้งม่านกันแสง

แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างและประตูโดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้บ้านร้อนอบอ้าว การติดตั้งม่านกันแสงจึงเป็นวิธีที่ง่ายและเห็นผลได้ชัดเจนในการลดปริมาณความร้อนที่เข้ามาภายในบ้าน แถมยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น

  • เลือกประเภทของม่านให้เหมาะสม

    ม่านกันแสงมีให้เลือกหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงและความร้อนที่แตกต่างกันไป

    • ม่านทึบแสง (Blackout Curtains)

      เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันแสงแดดและความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อผ้าหนาแน่นช่วยกันแสงได้เกือบ 100% เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องที่ต้องการความมืดสนิท

    • ม่านดิมเอาท์ (Dimout Curtains)

      สามารถกรองแสงได้ประมาณ 80-95% ช่วยลดความร้อนและแสงจ้าได้ดี แต่ยังคงมีแสงสว่างลอดผ่านเข้ามาได้บ้าง

    • ม่านปรับแสง (Venetian Blinds/Roller Blinds)

      สามารถปรับองศาของแผ่นม่านเพื่อควบคุมปริมาณแสงและความร้อนที่ส่องเข้ามาได้

    • ม่านโปร่ง (Sheer Curtains) ร่วมกับม่านทึบ

      ในเวลากลางวัน อาจใช้ม่านโปร่งเพื่อกรองแสงอ่อนๆ และเพิ่มความเป็นส่วนตัว ส่วนในเวลาที่แดดจัดหรือต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถปิดม่านทึบได้

  • พิจารณาวัสดุและสีของม่าน

    ม่านที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน อาจระบายอากาศได้ดีกว่า แต่ประสิทธิภาพในการกันแสงอาจไม่เท่าผ้าใยสังเคราะห์ที่มีการเคลือบสารกัน UV สำหรับสีของม่าน ควรเลือกสีอ่อนหรือสีโทนเย็น เพราะสีเข้มมีแนวโน้มที่จะดูดซับความร้อนมากกว่า

  • ติดตั้งให้เหมาะสม

    ควรติดตั้งม่านให้มีความกว้างและความยาวที่เหมาะสม สามารถปิดคลุมหน้าต่างและประตูได้อย่างมิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาตามขอบ

  • ดูแลรักษาม่านอย่างสม่ำเสมอ

    การทำความสะอาดม่านอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันฝุ่นละอองสะสม ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการกันแสง

การเลือกและติดตั้งม่านกันแสงอย่างเหมาะสม เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายขึ้นได้ทันที แถมยังเป็นการตกแต่งบ้านที่สวยงามและใช้งานได้จริงอีกด้วย

แต่งบ้านด้วยสีอ่อนช่วยบ้านเย็นสบาย

3. ใช้สีอ่อนในการตกแต่ง

สีสันมีอิทธิพลอย่างมากต่อความรู้สึกและอุณหภูมิภายในบ้าน สีเข้มมีแนวโน้มที่จะดูดซับความร้อนมากกว่าสีอ่อน ดังนั้น การเลือกใช้สีอ่อนในการตกแต่งจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ชาญฉลาดในการช่วยให้บ้านเย็นสบายและดูกว้างขวางขึ้น

  • ผนังและเพดานสีอ่อน

    การทาสีผนังและเพดานด้วยสีขาว สีครีม สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน หรือสีเทาอ่อน จะช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติได้ดี ทำให้ภายในบ้านดูสว่างและลดความรู้สึกอบอ้าว นอกจากนี้ สีอ่อนยังช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและสบายตามากยิ่งขึ้น

  • เฟอร์นิเจอร์โทนสีสว่าง

    การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีโทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีเบจ สีเทาอ่อน หรือสีพาสเทล จะช่วยเสริมให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่งสบายและไม่ทึบตัน เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ

  • ผ้าม่านและเครื่องนอนสีอ่อน

    เช่นเดียวกับผนัง การเลือกใช้ผ้าม่านและเครื่องนอนที่มีสีอ่อนจะช่วยลดการดูดซับความร้อนและทำให้ห้องนอนดูผ่อนคลาย เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน

  • ของตกแต่งโทนสีสว่าง

    การเพิ่มของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ที่มีสีอ่อน เช่น หมอนอิง แจกันดอกไม้ หรือภาพวาด ก็สามารถช่วยเสริมให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านดูสดใสและเย็นสบายขึ้นได้

  • พื้นสีอ่อน

    หากคุณกำลังวางแผนที่จะปูพื้นใหม่ การเลือกใช้พื้นสีอ่อน เช่น สีขาว สีเทาอ่อน หรือสีไม้ธรรมชาติ จะช่วยให้บ้านดูสว่างและลดความรู้สึกร้อนได้เช่นกัน

การเปลี่ยนมาใช้สีอ่อนในการตกแต่งบ้าน ไม่จำเป็นต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมด คุณสามารถเริ่มต้นจากการทาสีผนังใหม่ เปลี่ยนผ้าม่าน หรือเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งโทนสีสว่าง เพียงเท่านี้ก็จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศภายในบ้านที่ดูเย็นสบายและน่าอยู่ขึ้นอย่างแน่นอน

 

อ่านบทความที่น่าสนใจ : 5 ไอเดียเลือกสีทาภายในบ้านสวย ๆ สร้างพื้นที่แห่งความสบายใจให้คุณและทุกคนในบ้าน อัปเดต 2025

ปลูกต้นไม้ช่วยให้บ้านเย็นได้

4. เพิ่มพื้นที่สีเขียว

การนำธรรมชาติเข้ามาใกล้ชิดด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบๆ และภายในบ้าน ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตกแต่งที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการช่วยลดอุณหภูมิและสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายได้อย่างน่าอัศจรรย์

  • ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา

    การปลูกต้นไม้ใหญ่รอบบ้าน โดยเฉพาะทางทิศที่แสงแดดส่องถึงโดยตรง จะช่วยบดบังแสงแดดและลดความร้อนที่กระทบเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยคายความชื้นสู่อากาศ ทำให้บริเวณรอบบ้านเย็นลง

  • จัดสวนแนวตั้ง

    สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด การจัดสวนแนวตั้งเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ คุณสามารถปลูกไม้เลื้อย ไม้แขวน หรือทำระแนงสำหรับวางกระถางต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผนัง ช่วยลดความร้อนที่สะสมในผนังได้

  • ปลูกไม้กระถางภายในบ้าน

    การนำไม้กระถางเข้ามาตกแต่งภายในบ้าน นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว พืชบางชนิดยังมีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับสารพิษและเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ภายในบ้านเย็นสบายและอากาศบริสุทธิ์ขึ้น เช่น ต้นลิ้นมังกร ต้นพลูด่าง หรือว่านหางจระเข้

  • สร้างสวนบนดาดฟ้า (Roof Garden)

    หากบ้านของคุณมีดาดฟ้า การเปลี่ยนให้เป็นสวนสีเขียวไม่เพียงแต่จะช่วยลดความร้อนที่ถ่ายเทลงสู่ตัวบ้านชั้นล่างเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามอีกด้วย

  • ดูแลต้นไม้ให้ดี

    การรดน้ำและดูแลต้นไม้อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตและทำหน้าที่ในการลดความร้อนและเพิ่มความชื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านของคุณ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะช่วยให้บ้านเย็นสบายขึ้นแล้ว ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย สดชื่น และดีต่อสุขภาพกายและใจอีกด้วย

วิธีทำให้บ้านเย็นเพียงติดตั้งพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ

5. การติดตั้งพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ

เมื่อพูดถึงการทำให้บ้านเย็นสบาย การติดตั้งพัดลมและเครื่องปรับอากาศถือเป็นทางเลือกหลักที่หลายคนนึกถึง ด้วยประสิทธิภาพในการหมุนเวียนอากาศและปรับลดอุณหภูมิภายในห้องได้อย่างรวดเร็ว แต่การเลือกใช้อย่างชาญฉลาดจะช่วยให้คุณเย็นสบายได้โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป

  • พัดลม ทางเลือกประหยัดและช่วยระบายอากาศ

    พัดลมมีหลากหลายประเภท ทั้งพัดลมตั้งพื้น พัดลมติดผนัง และพัดลมเพดาน การใช้พัดลมช่วยในการหมุนเวียนอากาศภายในห้อง ทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นได้โดยไม่ต้องลดอุณหภูมิโดยรวมของห้องมากนัก นอกจากนี้ การเปิดพัดลมควบคู่ไปกับการเปิดหน้าต่าง จะช่วยระบายอากาศร้อนภายในออกไปและนำอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาได้

  • เครื่องปรับอากาศ ผู้ช่วยดับร้อนอย่างรวดเร็ว

    เครื่องปรับอากาศเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดอุณหภูมิภายในห้องอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัด อย่างไรก็ตาม การใช้งานเครื่องปรับอากาศอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อประหยัดพลังงานและรักษาสุขภาพ

    • เลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง

      การเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี BTU ต่ำเกินไปจะไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ BTU สูงเกินไปจะสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ

    • ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม

      การตั้งอุณหภูมิที่เย็นจนเกินไปไม่เพียงแต่จะสิ้นเปลืองพลังงาน แต่ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ควรตั้งอุณหภูมิที่ประมาณ 25-27 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่สบายและประหยัดพลังงาน

    • บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ

      การล้างแผ่นกรองอากาศและตรวจเช็คระบบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

    • ใช้ควบคู่กับพัดลม

      การเปิดพัดลมช่วยหมุนเวียนอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้รู้สึกเย็นสบายทั่วทั้งห้องโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศลงมาก

  • พัดลมไอเย็น อีกทางเลือกที่น่าสนใจ

    พัดลมไอเย็นทำงานโดยการดึงอากาศร้อนผ่านแผ่นทำความเย็นที่มีน้ำหล่อเลี้ยง ทำให้ได้ลมที่เย็นและมีความชื้น เหมาะสำหรับพื้นที่เปิดโล่ง หรือบริเวณที่อากาศแห้ง

การเลือกใช้พัดลมหรือเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและขนาดของห้อง ควบคู่ไปกับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายคลายร้อนได้อย่างแน่นอน

 

อ่านบทความที่น่าสนใจ : แอร์บ้านไม่เย็น เกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมทริคแก้ไขด้วยตัวเองเบื้องต้นแบบง่าย ๆ

ติดตั้งหลังคาเขียวเพื่อช่วยป้องกันความร้อนทำให้บ้านเย็น

6. ติดตั้งหลังคาเขียวหรือกันความร้อน

หลังคาเป็นส่วนที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรงมากที่สุด การติดตั้งหลังคาเขียวหรือวัสดุกันความร้อนบนหลังคาจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดความร้อนที่ถ่ายเทเข้าสู่ภายในบ้าน ช่วยให้บ้านเย็นสบายและประหยัดพลังงานในระยะยาว

  • หลังคาเขียว (Green Roof) ความเย็นจากธรรมชาติบนหลังคา

    การเปลี่ยนหลังคาธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอุณหภูมิบนหลังคาได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับน้ำฝน ลดภาระของระบบระบายน้ำ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง และสร้างทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย

    • ชั้นดินและพืชพรรณ

      ชั้นดินและพืชพรรณบนหลังคาจะช่วยเป็นฉนวนธรรมชาติ ป้องกันความร้อนจากแสงแดดไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน

    • การคายความชื้น

      พืชจะคายความชื้นออกมา ทำให้อากาศบริเวณหลังคาเย็นลง

    • อายุการใช้งานของหลังคา

      หลังคาเขียวยังช่วยปกป้องวัสดุมุงหลังคาจากรังสี UV และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ทำให้หลังคามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

  • วัสดุกันความร้อนสำหรับหลังคา

    สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการทำหลังคาเขียว การเลือกใช้วัสดุกันความร้อนสำหรับหลังคาก็เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ

    • ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา

      การติดตั้งฉนวนกันความร้อน เช่น ใยแก้ว โฟม หรือแผ่น PE ใต้หลังคา จะช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากหลังคาถ่ายเทลงสู่ภายในบ้าน

    • แผ่นสะท้อนความร้อน

      การติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนบนหลังคาหรือใต้แผ่นมุงหลังคา จะช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากแสงแดดออกไป

    • สีทาหลังคากันความร้อน

      การเลือกใช้สีทาหลังคาที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนจะช่วยลดอุณหภูมิของแผ่นหลังคาได้

  • การออกแบบหลังคาให้มีช่องระบายอากาศ

    การออกแบบหลังคาให้มีช่องระบายอากาศที่เหมาะสม จะช่วยระบายความร้อนที่สะสมอยู่ใต้หลังคาออกไป ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น

การลงทุนกับการติดตั้งหลังคาเขียวหรือวัสดุกันความร้อน อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่ในระยะยาว จะช่วยลดค่าไฟฟ้าจากการใช้เครื่องปรับอากาศ และสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เย็นสบายอย่างยั่งยืน

เปิดช่องระบายอากาศเพื่อทำให้บ้านเย็น

7. เปิดช่องระบายอากาศ

การระบายอากาศที่ดีคือหัวใจสำคัญของการทำให้บ้านเย็นสบายอย่างเป็นธรรมชาติ การเปิดช่องระบายอากาศอย่างถูกวิธีจะช่วยให้อากาศร้อนที่สะสมอยู่ภายในบ้านไหลเวียนออกไป และนำอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาแทนที่ ทำให้บ้านไม่อับชื้นและเย็นสบายยิ่งขึ้น

  • เปิดหน้าต่างและประตูให้สัมพันธ์กัน

    การเปิดหน้าต่างและประตูที่อยู่ตรงข้ามกัน หรือในแนวที่ลมพัดผ่าน จะช่วยสร้างกระแสลมไหลเวียนภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ อากาศร้อนจะถูกดันออกไป และอากาศเย็นจะเข้ามาแทนที่

  • ใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติ

    สังเกตทิศทางลมที่พัดผ่านบ้านของคุณ และเปิดช่องทางลมในทิศทางนั้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากมีลมพัดอ่อนๆ การเปิดหน้าต่างหลายบานพร้อมกันก็จะช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น

  • เปิดช่องระบายอากาศบริเวณที่สูง

    อากาศร้อนมักจะลอยตัวสูงขึ้น การมีช่องระบายอากาศบริเวณใกล้เพดาน เช่น หน้าต่างบานกระทุ้ง หรือช่องระบายอากาศเล็กๆ จะช่วยให้ความร้อนที่สะสมอยู่ด้านบนระบายออกไปได้

  • ใช้พัดลมช่วยในการระบายอากาศ

    หากลมธรรมชาติไม่แรงพอ การใช้พัดลมดูดอากาศติดตั้งบริเวณหน้าต่างหรือผนังที่อยู่ตรงข้ามกับช่องลมเข้า จะช่วยเร่งการระบายอากาศร้อนออกจากบ้านได้อย่างรวดเร็ว

  • ระบายอากาศในช่วงเวลาที่เหมาะสม

    ควรเปิดช่องระบายอากาศในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นที่อุณหภูมิภายนอกยังไม่สูงมากนัก เพื่อนำอากาศเย็นเข้ามาภายในบ้าน และปิดในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนจัดเพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนเข้ามา

การเปิดช่องระบายอากาศเป็นวิธีที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและช่วยให้บ้านเย็นสบายได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพียงแค่ใส่ใจและเปิดช่องทางลมอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยลดความร้อนสะสมและทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดีขึ้น

เฟอร์นิเจอร์ไม้ช่วยให้บ้านเย็นสบาย

8. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยให้บ้านเย็น

นอกจากโครงสร้างและองค์ประกอบภายนอกแล้ว การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมก็มีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายและถ่ายเทอากาศได้ดีภายในบ้าน วัสดุและดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์สามารถส่งผลต่อการกักเก็บความร้อนและความอับชื้นได้

  • เฟอร์นิเจอร์โปร่งและมีช่องว่าง

    การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์โปร่ง โล่ง มีช่องว่าง จะช่วยให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก ลดการสะสมความร้อนและความอับชื้น เฟอร์นิเจอร์หวาย เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีขาโปร่ง หรือชั้นวางของแบบเปิดโล่ง เป็นตัวเลือกที่ดี

  • วัสดุธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี

    เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือหวาย วัสดุเหล่านี้ระบายอากาศได้ดี ไม่กักเก็บความร้อน และให้สัมผัสที่สบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ

  • หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์หนังหรือผ้ากำมะหยี่

    เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนังหรือผ้ากำมะหยี่มีแนวโน้มที่จะดูดซับความร้อนและระบายอากาศได้ไม่ดี ทำให้รู้สึกร้อนและอับชื้นเมื่อสัมผัส

  • ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

    การมีเฟอร์นิเจอร์มากเกินไปจะทำให้บ้านดูทึบตัน อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และอาจกักเก็บความร้อนไว้มากขึ้น ลองเลือกเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นและจัดวางให้มีพื้นที่ว่างเพียงพอ

  • เบาะรองนั่งและปลอกหมอนที่ทำจากวัสดุเย็นสบาย

    หากจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีเบาะรองนั่ง ควรเลือกวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าที่มีคุณสมบัติเย็นสบาย และหลีกเลี่ยงวัสดุสังเคราะห์ที่อาจทำให้รู้สึกร้อน

การใส่ใจในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อน จะช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศมากนัก แถมยังสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ติดตั้งโคมไฟ LED ช่วยบ้านเย็นคลายร้อน

9. การใช้โคมไฟ LED

แสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านทุกหลัง แต่หลอดไฟแบบเดิมๆ มักจะปล่อยความร้อนออกมาด้วย ซึ่งอาจทำให้ภายในบ้านร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว การเปลี่ยนมาใช้โคมไฟ LED จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ชาญฉลาดในการให้แสงสว่างที่เพียงพอ ควบคู่ไปกับการลดความร้อนสะสมและประหยัดพลังงาน

  • LED ปล่อยความร้อนน้อย

    หลอดไฟ LED มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นแสงสว่างสูงกว่าหลอดไฟแบบเดิมมาก ทำให้ปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ การเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ในทุกจุดของบ้านจะช่วยลดความร้อนโดยรวมภายในบ้านได้อย่างเห็นได้ชัด

  • ประหยัดพลังงาน

    นอกจากจะปล่อยความร้อนน้อยแล้ว หลอดไฟ LED ยังใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟแบบเดิมอย่างมาก ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว ถือเป็นการช่วยทั้งให้บ้านเย็นขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กัน

  • อายุการใช้งานยาวนาน

    หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบเดิมหลายเท่า ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายและช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

  • มีแสงให้เลือกหลากหลาย

    ปัจจุบัน โคมไฟ LED มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและโทนสีของแสง ตั้งแต่แสงสีขาวนวล (Warm White) ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ไปจนถึงแสงสีขาว (Cool White/Daylight) ที่ให้ความสว่างสดใส คุณสามารถเลือกโทนสีของแสงให้เหมาะสมกับบรรยากาศและความต้องการของแต่ละห้องได้

  • ดีไซน์หลากหลาย

    โคมไฟ LED มีดีไซน์ที่ทันสมัยและหลากหลาย สามารถนำมาใช้ตกแต่งบ้านให้สวยงามและเข้ากับสไตล์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว

การเปลี่ยนมาใช้โคมไฟ LED อาจดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันทั้งบ้านแล้ว จะสามารถช่วยลดความร้อนสะสมภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่าทั้งในแง่ของความเย็นสบายและค่าใช้จ่าย

แต่งบ้านให้โปร่งโล่งเป็นวิธีทำให้บ้านเย็น

10. ตกแต่งภายในบ้านให้โปร่งโล่ง

การจัดระเบียบและตกแต่งภายในบ้านให้ดูโปร่ง โล่ง สบายตา ไม่เพียงแต่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อการไหลเวียนของอากาศภายในบ้าน ช่วยลดความอับชื้นและความร้อนสะสมได้อีกด้วย

  • ลดสิ่งของที่ไม่จำเป็น

    การมีสิ่งของวางเกะกะมากเกินไปจะทำให้บ้านดูรก อับทึบ และขวางทางลม ลองสำรวจและนำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไป จัดเก็บให้เป็นระเบียบ จะช่วยให้บ้านดูกว้างขวางและอากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น

  • ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

    เลือกเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นและมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่และทึบตันที่อาจขวางการไหลเวียนของอากาศ เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานก็เป็นทางเลือกที่ดี

  • จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้มีช่องว่าง

    เว้นระยะห่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น เพื่อให้มีพื้นที่ให้อากาศไหลเวียนได้อย่างสะดวก การชิดผนังมากเกินไปอาจทำให้เกิดการสะสมความร้อนได้

  • ใช้ของตกแต่งที่โปร่งเบา

    เลือกของตกแต่งที่มีดีไซน์โปร่ง เช่น แจกันแก้ว กรอบรูปอะคริลิก หรือของตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติที่มีรูพรุน หลีกเลี่ยงของตกแต่งขนาดใหญ่และทึบตัน

  • กระจกช่วยเพิ่มความโปร่งและสะท้อนแสง

    การติดตั้งกระจกเงาในบริเวณที่เหมาะสมจะช่วยให้ห้องดูกว้างขวางขึ้น และยังช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องสว่างและลดความรู้สึกอึดอัด

  • ผ้าม่านโปร่งและบาง

    ในช่วงกลางวัน หากต้องการแสงธรรมชาติแต่ไม่อยากให้บ้านร้อนอบอ้าว การเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งและบางจะช่วยกรองแสงได้ในระดับหนึ่ง และยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีกว่าผ้าม่านหนาทึบ

การปรับเปลี่ยนการตกแต่งภายในบ้านให้โปร่งโล่ง อาจต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการจัดระเบียบ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือบ้านที่เย็นสบาย น่าอยู่ และรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความที่น่าสนใจ : เทคนิคแต่งบ้านให้ดูโปร่ง กว้างขวาง และหรูหรามีสไตล์

รับออกแบบตกแต่งภายในให้บ้านเย็นสบายกว่าใครกับ one nine one discreet luxury interior design

ออกแบบบ้านให้เย็นสบายทุกฤดู กับ One Nine One Discreet Luxury Interior Design สวย ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

เปลี่ยนทุกมุมบ้านให้เย็นสบายและน่าอยู่ตลอดปี กับบริการออกแบบตกแต่งภายในจาก One Nine One Discreet Luxury Interior Design ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทั้งความงามและฟังก์ชันการดีไซน์บ้านอย่างแท้จริง

เราออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ทุกฤดูของเมืองไทย ทั้งการระบายอากาศ เปิดรับแสงธรรมชาติ และการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะกับสภาพอากาศ พร้อมเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ดีไซน์พิเศษเฉพาะคุณ บริการครบจบในที่เดียว ทั้งงานออกแบบ ตกแต่ง และติดตั้ง ให้ลูกค้าทุกท่านได้บ้านที่สวยตรงใจ อยู่สบายได้ทุกวัน

ชมผลงานการออกแบบตกแต่งภายในจาก One Nine One Discreet Luxury Interior Design

หรือสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเรา

One Nine One Interior Design and Decor 
พร้อมออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

ด้วยบริการหลากหลายรูปแบบจากทีมนักออกแบบและทีมช่างที่มากด้วยประสบการณ์

บทความที่น่าสนใจ

แนะนำวิธีเลือกวัสดุไม้สำหรับงานตกแต่งภายในบ้าน

คู่มือเลือกวัสดุไม้สำหรับงานตกแต่งภายในบ้าน เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน สวยงาม คงทน

ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในงานออกแบบตกแต่งภายใน ด้วยความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น

Read More »
รวมฮวงจุ้ยจัดโต๊ะกินข้าวและห้องกินข้าว

แชร์ 8 ฮวงจุ้ยจัดโต๊ะกินข้าวและห้องกินข้าว จัดให้ถูกหลัก ปังแน่นอน!

หลักฮวงจุ้ยยังคงถูกนำมาใช้ร่วมกับการออกแบบตกแต่งภายในบ้านได้เสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นห้องกินข้าว และยังรวมไปถึงการจัดโต๊ะกินข้าวให้ตรงหลักฮวงจุ้ยเช่นกัน

Read More »
25 ไอเดียตกแต่งห้องกินข้าวภายในบ้าน

25 ไอเดียตกแต่งห้องกินข้าวสวย ๆ ให้ช่วงเวลาของครอบครัวเต็มไปด้วยความสุข

ห้องกินข้าวไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของครอบครัว เป็นที่ที่ความรัก

Read More »