1. กระเบื้องเซรามิก (Ceramic Tile)
หากจะถามว่าพื้นบ้านแบบไหนดีต่อผู้ใช้งานมากที่สุด ชื่อของกระเบื้องเซรามิกต้องมาเป็นอันดับแรก เพราะผู้คนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีหลายลวดลาย สีสัน และขนาดให้เลือกหลากหลายด้วย
จุดแข็ง
- ทนทานต่อรอยขีดข่วนและคราบสกปรก
- ทำความสะอาดง่าย
- ทนน้ำ เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
- ราคาคุ้มค่า มีตั้งแต่ราคาถูกจนถึงระดับพรีเมียม
จุดอ่อน
- พื้นผิวอาจเย็นเมื่อเดินเท้าเปล่า
- มีความแข็ง ทำให้รู้สึกไม่สบายเท่าพื้นไม้
- อาจลื่นเมื่อเปียกน้ำ ถ้าเลือกกระเบื้องผิวมัน
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :7 เคล็ดลับเลือกกระเบื้องห้องนอนให้ได้คุณภาพ
2. ไม้จริง (Solid Wood Flooring)
ในเรื่องของการเลือกพื้นบ้านแบบที่สร้างบรรยากาศดี ๆ ต่อคนในบ้านได้ ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดก็ต้องขอยกให้กับพื้นไม้เลยทีเดียว เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นและธรรมชาติ เหมาะกับการสร้างบรรยากาศที่หรูหราและนุ่มนวลในบ้าน
จุดแข็ง
- มีความงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยลายไม้ธรรมชาติ
- สามารถขัดและเคลือบใหม่ได้เมื่อเกิดรอย
- ให้สัมผัสที่อบอุ่นและเป็นมิตรกับผิวสัมผัส
- มีมูลค่าเพิ่มในระยะยาว
จุดอ่อน
- ราคาแพงกว่าวัสดุอื่น ๆ
- ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความชื้นสูง
- ไม่เหมาะกับพื้นที่เปียกหรือมีความชื้นสูง
- อาจเกิดรอยขีดข่วนง่ายกว่าวัสดุแข็งอื่น ๆ
3. ไม้ลามิเนต (Laminate Flooring)
งบไม่เยอะควรเลือกพื้นบ้านแบบไหนดี? ไม้ลามิเนตเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนที่ชอบลายไม้แต่ต้องการวัสดุที่ดูแลรักษาง่ายและราคาไม่สูงมาก อีกทั้งช่วยเพิ่มดีไซน์ให้ได้พื้นบ้านสวยๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเหมาะแก่การปูพื้นห้องนอนด้วย
จุดแข็ง
- ราคาถูกกว่าไม้จริงมาก
- ติดตั้งง่าย และสามารถถอดเปลี่ยนได้
- ทนต่อรอยขีดข่วนและการใช้งานหนัก
- มีลายไม้ให้เลือกหลากหลาย และบางรุ่นมีลวดลายสมจริง
จุดอ่อน
- ไม่ทนความชื้นเท่าไม้จริง
- ไม่สามารถขัดและเคลือบใหม่ได้
- เสียงเดินจะก้องหรือแข็งกว่าพื้นไม้จริง
- หากโดนน้ำขัง อาจพองและเสียหายได้
4. พื้นไวนิล (Vinyl Flooring)
เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะความหลากหลายของลวดลาย รวมถึงความทนทานและราคาที่จับต้องได้ง่าย
จุดแข็ง
- มีความยืดหยุ่น เดินสบายเท้า
- กันน้ำและความชื้นได้ดีมาก
- ติดตั้งง่ายและดูแลรักษาง่าย
- มีลายและสีสันมากมาย รวมถึงลายไม้ ลายหิน หรือลายโมเดิร์น
จุดอ่อน
- อาจดูไม่หรูเท่าวัสดุจริง
- อายุการใช้งานน้อยกว่าไม้จริงหรือกระเบื้อง
- บางรุ่นอาจมีกลิ่นสารเคมีในช่วงแรก
5. หินธรรมชาติ (Natural Stone Flooring)
หินธรรมชาติที่นิยมใช้ ยกตัวอย่าง เช่น หินอ่อน หินแกรนิต หินทราย เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหราและแข็งแรงทนทาน
จุดแข็ง
- สวยงามเป็นธรรมชาติ มีลวดลายไม่ซ้ำใคร
- ทนทานต่อการใช้งานหนักและรอยขีดข่วน
- อายุการใช้งานยาวนานมาก
- เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความหรูหรา เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก
จุดอ่อน
- ราคาสูง
- ต้องดูแลรักษาอย่างดี ป้องกันคราบน้ำหรือคราบสกปรก
- พื้นผิวบางประเภทอาจลื่นเมื่อน้ำเปียก
- การติดตั้งและซ่อมแซมต้องใช้ช่างผู้ชำนาญ
6. พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring)
เป็นไม้ที่ออกแบบมาให้มีความทนทานมากกว่าไม้จริงโดยการนำไม้จริงมาประกบกับวัสดุชั้นอื่น ๆ
จุดแข็ง
- ดูเหมือนไม้จริงและให้ความรู้สึกอบอุ่น
- ทนทานต่อความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง
- ติดตั้งง่ายและมีราคากลาง ๆ
- สามารถขัดเคลือบผิวใหม่ได้ในบางรุ่น
จุดอ่อน
- อายุการใช้งานไม่ยาวนานเท่าไม้จริง
- ราคาสูงกว่าไม้ลามิเนต
- หากโดนน้ำมากเกินไปอาจเสียหายได้
7. พื้นคอนกรีตขัดมัน (Polished Concrete Flooring)
เป็นวัสดุที่มาแรงสำหรับบ้านสไตล์ลอฟต์หรือโมเดิร์น ให้ความรู้สึกดิบ ๆ แข็งแรง และดูทันสมัย หากจะถามว่าพื้นบ้านแบบไหนดีและแข็งแรงมากที่สุด พื้นคอนกรีตถือว่าตอบโจทย์มาก
จุดแข็ง
- แข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้นานมาก
- ดูแลรักษาง่าย เพียงทำความสะอาดและขัดเงาเป็นระยะ
- ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้น
- มีลักษณะเฉพาะตัว เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์อินดัสเทรียลหรือโมเดิร์น
จุดอ่อน
- เดินแล้วอาจรู้สึกเย็นและแข็งกระด้าง
- การติดตั้งและขัดมันต้องใช้ความชำนาญสูง
- ไม่มีความนุ่มหรือความอบอุ่นเหมือนไม้หรือวัสดุอื่น ๆ
8. พื้นไม้คอร์ก (Cork Flooring)
ถ้าจะถามว่าพื้นบ้านแบบไหนดีต่อเท้ามากที่สุด ต้องยกให้พื้นไม้คอร์กเลย เพราะใช้วัสดุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความนุ่มสบายและช่วยเก็บเสียงได้ดี
จุดแข็ง
- เดินสบายเท้า ลดเสียงก้องภายในบ้าน
- มีความยืดหยุ่นและกันความเย็นได้ดี
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะทำจากเปลือกไม้คอร์กที่รีไซเคิลได้
- ดูแลรักษาง่ายและทนต่อเชื้อรา
จุดอ่อน
- ทนทานน้อยกว่าวัสดุแข็งอื่น ๆ
- อาจเกิดรอยบุบหรือขีดข่วนได้ง่าย
- ไม่เหมาะกับพื้นที่เปียกหรือโดนน้ำบ่อย ๆ
เปลี่ยนบ้านให้หรูขึ้นทุกตารางเมตร ด้วยงานปูพื้นระดับพรีเมียมจาก One Nine One Discreet Luxury Interior Design
เปลี่ยนทุกก้าวในบ้านให้สัมผัสได้ถึงความหรูหรา กับบริการช่วยเลือกวัสดุสำหรับตกแต่งภายในจากOne Nine One Discreet Luxury Interior Design ที่พร้อมดูแลคุณตั้งแต่การเลือกวัสดุปูพื้น สี และลวดลาย ไปจนถึงดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์บ้านอย่างลงตัว เราคัดสรรวัสดุปูพื้นที่ดีที่สุดจากทั่วโลก พร้อมทีม Interior Designer มืออาชีพที่จะช่วยออกแบบพื้นที่พักอาศัยของลูกค้าให้โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและไลฟ์สไตล์ในทุกตารางเมตร ให้บ้านสวยเหนือระดับอย่างแท้จริง
ชมผลงานการออกแบบภายในห้องนั่งเล่นของเรา หรือดูรายละเอียดบริการออกแบบตกแต่งภายใน ได้เลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา หรือ โทร. 02-430-6789 และแอดไลน์@1nine1
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวัสดุปูพื้นภายในบ้าน
1. สำหรับการตกแต่งภายในบ้านที่เน้นความหรูหราและทนทานในระยะยาว ควรเลือกวัสดุปูพื้นประเภทใด และมีข้อดีอย่างไรบ้าง?
สำหรับความหรูหราและทนทานในระยะยาว ควรพิจารณา “หินธรรมชาติ” หรือ “ไม้จริง” หินธรรมชาติมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์, ทนทานสูง, และมีอายุการใช้งานยาวนาน ส่วนไม้จริงให้ความรู้สึกอบอุ่น, มีความงามเฉพาะตัว, และสามารถขัดเคลือบใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าได้
2. หากต้องการพื้นบ้านที่ดูแลรักษาง่าย กันน้ำได้ดีเยี่ยม และมีลวดลายหลากหลายให้เลือกในราคาที่เข้าถึงได้ ควรเลือกวัสดุปูพื้นชนิดใด?
ควรเลือก “พื้นไวนิล” เนื่องจากมีความยืดหยุ่น, เดินสบายเท้า, กันน้ำและความชื้นได้ดีมาก, ติดตั้งและดูแลรักษาง่าย, และมีลวดลายให้เลือกหลากหลายทั้งลายไม้, ลายหิน, หรือลายโมเดิร์น
3. พื้นไม้เอ็นจิเนียร์แตกต่างจากไม้จริงอย่างไรในด้านความทนทานและความชื้น?
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความทนทานต่อความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง เนื่องจากมีการนำไม้จริงมาประกบกับวัสดุชั้นอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม้จริงมักมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า