
1. ไม้จริง – หรูหรา อบอุ่น คลาสสิกตลอดกาล
ไม้จริงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศห้องนอนที่อบอุ่น สงบ และดูมีระดับ ลายไม้ธรรมชาติช่วยให้ห้องนอนดูมีชีวิตและเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้ดีมากข้อดี
ให้สัมผัสอบอุ่น ไม่เย็นเท้า เหมาะกับการเดินเท้าเปล่า มีลายไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ ขัดเคลือบผิวใหม่ได้ข้อจำกัด
ราคาแพง ต้องดูแลสม่ำเสมอ ไม่ทนความชื้นอายุการใช้งาน
พื้นไม้จริงถือเป็นวัสดุปูพื้นที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก หากได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของพื้นไม้จริงสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 30 ปีไปจนถึง 100 ปี หรือมากกว่านั้นเลยทีเดียวเหมาะกับใคร
-
ผู้ใหญ่ทั่วไป / วัยหนุ่มสาว
ชื่นชอบความสวยงาม คลาสสิก หรูหรา อบอุ่น และการลงทุนระยะยาว -
ผู้ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ
ไม่อมฝุ่นเท่าพรม และทำความสะอาดง่ายกว่า -
ผู้ที่ต้องการความเงียบสงบ
ช่วยลดเสียงสะท้อนได้ดีกว่าพื้นแข็งๆ บางชนิด
ไม่เหมาะกับใคร
-
เด็กเล็ก / วัยซน
เนื่องจากไม้จริงบางชนิดเป็นรอยง่ายจากของเล่น ของแข็ง หรือการลากถู และทำความสะอาดยากเมื่อเกิดคราบ เช่น นม น้ำ ผลไม้ หกใส่ ถ้าเช็ดไม่ทัน อาจซึมและเกิดคราบถาวรได้ -
ผู้สูงอายุ
เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุหกล้มได้ง่าย โดยเฉพาะหลังอาบน้ำหรือเมื่อพื้นเปียก นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องความชื้น การขูดขีด และอาจต้องมีการขัดเคลือบใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ -
ผู้เลี้ยงสัตว์ (โดยเฉพาะสุนัข/แมว)
เนื่องจากเล็บสัตว์สามารถทำให้พื้นไม้เป็นรอยได้ง่าย และหากสัตว์เลี้ยงขับถ่ายบนพื้นไม้แล้วไม่ได้ทำความสะอาดทันที จะซึมลงไปในเนื้อไม้ ทำให้เกิดคราบและกลิ่นติดถาวร ยากต่อการแก้ไข นอกจากนี้ เวลาสัตว์เดินหรือวิ่ง อาจมีเสียงเล็บกระทบกับพื้นไม้ดังรบกวนได้
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นไม้จริง
Modern Classic, Scandinavian, Minimalist, Bohemian, Industrial เป็นต้น อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :เคล็ดลับเลือกกระเบื้องปูพื้นในห้องให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
2. ไม้ลามิเนต – คุ้มค่าเหมือนไม้จริง
ไม้ลามิเนตเป็นวัสดุที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเมื่อคิดจะปูพื้นห้องนอน เพราะให้ลุคคล้ายไม้จริงแต่ราคาเบากว่า และติดตั้งง่ายข้อดี
ลวดลายหลากหลาย ดูเหมือนไม้จริงในราคาที่จับต้องได้ ดูแลรักษาง่าย ทนต่อรอยขีดข่วนข้อจำกัด
ไม่ทนความชื้น อาจเกิดการบวม พอง หากน้ำหกทิ้งไว้อายุการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของพื้นไม้ลามิเนตจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี สำหรับเกรดทั่วไป และสำหรับ เกรดพรีเมียมอาจมีอายุการใช้งานมากกว่า 15 ปีขึ้นไปเหมาะกับใคร
-
ผู้ใหญ่ทั่วไป / วัยหนุ่มสาว
ชื่นชอบความสวยงามคล้ายไม้จริงในราคาที่เข้าถึงง่าย ดูแลรักษาง่าย -
เด็กเล็ก
ทนทานต่อการขีดข่วนและการกระแทกได้ดีกว่าไม้จริงบางชนิด (ขึ้นอยู่กับเกรด AC rating) ทำความสะอาดคราบหกเลอะได้ง่าย -
ผู้สูงอายุ (ถ้าผิวสัมผัสไม่ลื่นเกินไป)
ดูแลทำความสะอาดง่าย ไม่ยุ่งยาก -
ผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ
ราคาถูกกว่าไม้จริงและไม้เอ็นจิเนียร์
ไม่เหมาะกับใคร
-
ผู้เลี้ยงสัตว์
แม้จะทนคราบ แต่ลามิเนตไม่กันน้ำ 100% หากน้ำหรือปัสสาวะซึมลงไปตามรอยต่อเป็นเวลานาน อาจทำให้พื้นบวมเสียได้ -
ผู้สูงอายุ (ถ้าผิวสัมผัสเงา/ลื่น)
อาจเกิดอุบัติเหตุหกล้มได้ง่ายกว่าพื้นที่มีความฝืด -
ผู้ที่ต้องการความทนทานสูงสุดในระยะยาว
อายุการใช้งานสั้นกว่าไม้จริง ไม่สามารถขัดทำสีใหม่ได้ หากเสียหายต้องเปลี่ยนแผ่น -
ผู้ที่เน้นสัมผัสธรรมชาติ 100%
สัมผัสอาจไม่ได้นุ่มนวลและอบอุ่นเท่าไม้จริง และอาจมีเสียงดังจากการเดินมากกว่าไม้จริง -
พื้นที่ที่มีความชื้นสูง
ไม่เหมาะกับห้องที่อาจมีน้ำท่วมขัง หรือความชื้นสะสมสูง เช่น ติดกับห้องน้ำที่ไม่มีการป้องกันน้ำที่ดีพอ
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นไม้ลามิเนต
Modern Contemporary, Scandinavian, Minimalist, Transitional, Urban Modern เป็นต้น
3. พื้นไวนิล – ยืดหยุ่น ดูดี ราคาย่อมเยา
ใครที่ต้องการวัสดุที่กันน้ำได้ดีและมีดีไซน์ทันสมัย พื้นไวนิลคือคำตอบ! เพราะใช้ได้กับหลายสไตล์ห้องนอนเลยทีเดียวข้อดี
กันน้ำ ทนรอยขีดข่วน เดินสบายเท้า ติดตั้งง่าย มีหลายลายให้เลือกข้อจำกัด
อายุการใช้งานน้อยกว่าวัสดุแข็ง เสี่ยงต่อการเสียหายหากวางของมีน้ำหนักมากนาน ๆอายุการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของพื้นไวนิลจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี สำหรับผลิตภัณฑ์คุณภาพทั่วไป และสำหรับ เกรดพรีเมียมหรือชนิดที่มีชั้น Wear Layer หนา อาจมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 15-20 ปี หรือมากกว่านั้นเหมาะกับใคร
-
เด็กเล็ก / วัยซน
ไวนิลมีชั้นกันรอยที่ดี ทำให้ทนทานต่อการเล่นของเด็กๆ หรือของเล่นตกใส่ และหากน้ำ นม หรือเครื่องดื่มหกใส่ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ซึม ไม่บวม นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย ช่วยลดแรงกระแทกหากเด็กหกล้มได้ดีกว่าพื้นแข็งๆ -
ผู้สูงอายุ
พื้นผิวไวนิลมักมีความหนืด ไม่ลื่นจนเกินไป ช่วยลดความเสี่ยงในการหกล้ม รวมถึงยังช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดการหกล้มอีกด้วย นอกจากนี้ยังทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องดูแลซับซ้อน และให้ความรู้สึกอุ่นสบายเท้ามากกว่ากระเบื้อง -
ผู้เลี้ยงสัตว์
ชั้นกันรอยของไวนิลช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากเล็บสัตว์ได้ดีกว่าไม้จริงและลามิเนต หากสัตว์เลี้ยงขับถ่ายบนพื้น สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ซึม ไม่เกิดคราบและกลิ่นฝังแน่น -
ผู้ใหญ่ทั่วไป / วัยหนุ่มสาว
ชื่นชอบความสวยงามคล้ายไม้จริงหรือวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ในราคาที่คุ้มค่า ดูแลรักษาง่าย และทนทาน
ไม่เหมาะกับใคร
-
ผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ 100%
แม้ไวนิลจะเลียนแบบลายไม้ได้สวยงาม แต่สัมผัสก็ยังคงเป็นพลาสติก ไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติเท่าไม้จริง -
ผู้ที่ต้องการความทนทานสูงสุดในระยะยาว (เกิน 20 ปี)
แม้ไวนิลจะทนทาน แต่ก็มีอายุการใช้งานจำกัด ไม่สามารถขัดทำสีใหม่ได้เหมือนไม้จริง หากเสียหายมากต้องเปลี่ยนแผ่น -
ผู้ที่ต้องการพื้นผิวที่ทนความร้อนสูงมาก
แม้จะทนความร้อนได้ดีกว่าลามิเนต แต่การโดนความร้อนสูงจัดๆ หรือแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานมากๆ อาจทำให้สีซีดจางหรือเกิดการหดตัวได้ (แต่ปัญหานี้น้อยกว่าลามิเนตมาก)
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นไวนิล
Modern, Scandinavian, Minimalist, Coastal / Beach House, Contemporary เป็นต้น
4. ไม้เอ็นจิเนียร์ – ทางเลือกที่ลงตัวระหว่างไม้จริงกับลามิเนต
ไม้เอ็นจิเนียร์เป็นวัสดุที่ผลิตจากไม้จริงด้านบน และไม้ประกอบด้านล่าง ทำให้ได้ทั้งความสวยของไม้จริงและความเสถียรของวัสดุเทียมข้อดี
ให้สัมผัสเหมือนไม้จริง ทนชื้นได้ดีกว่าไม้แท้ มีความยืดหยุ่น ติดตั้งง่ายข้อจำกัด
ราคาสูงกว่าลามิเนต แต่ต่ำกว่าไม้จริงอายุการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะอยู่ที่ประมาณ 20-50 ปี หรือบางกรณีอาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะความหนาของชั้นไม้จริงด้านบน และการดูแลรักษาเหมาะกับใคร
-
ผู้ใหญ่ทั่วไป / วัยหนุ่มสาว
ชื่นชอบความสวยงาม หรูหรา อบอุ่น และสัมผัสที่เป็นธรรมชาติของไม้จริง ในขณะที่ได้ความทนทานและเสถียรภาพที่ดีกว่าไม้จริงบางชนิด -
ผู้ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ
ไม่อมฝุ่นเท่าพรม และทำความสะอาดง่ายกว่า -
ผู้ที่ต้องการความเงียบสงบ
ช่วยลดเสียงสะท้อนได้ดีกว่าพื้นแข็งๆ เช่น กระเบื้อง หรือคอนกรีตขัดมัน -
ผู้ที่มองหาความคุ้มค่าระยะยาว
แม้ราคาสูงกว่าลามิเนต แต่สามารถขัดหน้าไม้ได้ (ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไม้จริง) จึงใช้งานได้ยาวนาน
ไม่เหมาะกับใคร
-
เด็กเล็ก / วัยซน
แม้จะทนทานกว่าไม้จริงบางชนิด แต่ก็ยังเป็นรอยง่ายจากของเล่น ของแข็ง หรือการลากถู และหากมีนม น้ำ ผลไม้ หกใส่ ถ้าเช็ดไม่ทัน อาจซึมลงในชั้นไม้จริงและเกิดคราบถาวรได้ -
ผู้สูงอายุ
หากเลือกผิวหน้าแบบเงา อาจเพิ่มความเสี่ยงในการหกล้ม นอกจากนี้ยังคงต้องระวังเรื่องความชื้น การขูดขีด และการซ่อมบำรุงที่ซับซ้อนกว่าพื้นสังเคราะห์ -
ผู้เลี้ยงสัตว์ (โดยเฉพาะสุนัข/แมว)
ชั้นไม้จริงด้านบนยังคงเป็นรอยง่ายจากเล็บสัตว์ และหากสัตว์เลี้ยงขับถ่ายบนพื้นแล้วไม่ได้ทำความสะอาดทันที อาจซึมลงไปในชั้นไม้จริง ทำให้เกิดคราบและกลิ่นติดถาวร นอกจากนี้เวลาสัตว์เดินหรือวิ่ง อาจมีเสียงเล็บกระทบกับพื้นดังรบกวนได้
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
Modern Classic, Contemporary, Scandinavian, Transitional, Minimalist เป็นต้น
5. พรม – เพิ่มความอบอุ่นและนุ่มนวล
แม้ว่าพรมจะไม่ได้เป็นแผ่นปูพื้นห้องนอนแบบถาวร แต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีแต่งพื้นให้สวยและเปลี่ยนบรรยากาศได้ทันที เหมาะกับห้องนอนที่ต้องการความนุ่มเท้าและลดเสียงรบกวนข้อดี
เดินสบาย นุ่ม ซับเสียงดี มีหลายสีและลวดลายข้อจำกัด
ต้องทำความสะอาดบ่อย ไม่ทนน้ำ อาจเกิดเชื้อราในพื้นที่อับชื้นอายุการใช้งาน
มีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉลี่ยแล้ว พรมปูพื้นห้องนอนมักมีอายุการใช้งานประมาณ 5-15 ปีเหมาะกับใคร
-
เด็กเล็ก / วัยซน
นุ่มนวล ช่วยลดแรงกระแทกหากเด็กหกล้มหรือเล่นซน และให้ความอบอุ่นสบายเท้าเวลาเด็กคลานหรือนั่งเล่น รวมถึงช่วยดูดซับเสียงรบกวนจากการเล่น -
ผู้สูงอายุ
พื้นผิวพรมไม่ลื่น ช่วยลดความเสี่ยงในการสะดุดหรือหกล้ม และช่วยลดความรุนแรงจากการหกล้มได้ดีกว่าพื้นแข็งๆ นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเวลาเดินหรือลุกจากเตียง -
ผู้ที่ใส่ใจเรื่องความอบอุ่นและสบายเท้า
ชื่นชอบความนุ่มนวล หรูหรา และบรรยากาศที่เงียบสงบในห้องนอน
ไม่เหมาะกับใคร
-
ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ / หอบหืด
พรมมักจะสะสมฝุ่นละออง ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ได้ง่าย หากทำความสะอาดไม่ดีพอ อาจกระตุ้นอาการภูมิแพ้ -
ผู้เลี้ยงสัตว์ (โดยเฉพาะสุนัข/แมว)
ขนสัตว์มักติดอยู่กับพรมและทำความสะอาดยาก และคราบของเสียจากสัตว์เลี้ยงจะซึมลงพรมและฝังแน่น ทำให้เกิดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่าย ยากต่อการขจัดออก นอกจากนี้ การดูแลรักษาพรมให้สะอาดและปราศจากกลิ่นสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงนั้นทำได้ยากและต้องใช้เวลามาก -
ผู้ที่ต้องการความทนทานสูงสุดและดูแลรักษาง่าย
พรมต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น การดูดฝุ่นบ่อยๆ และการซักพรมอย่างมืออาชีพ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลมากนัก
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นพรม
Cozy & Comfy, Classic, Glam, Shabby Chic, Traditional เป็นต้น
6. กระเบื้อง – ทางเลือกที่หลากหลายและทนทาน
แม้หลายคนจะมองว่ากระเบื้องเหมาะกับห้องน้ำหรือห้องครัว แต่จริง ๆ แล้วการปูพื้นห้องนอนด้วยกระเบื้องก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบ้านในเขตร้อนข้อดี
แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย ไม่กลัวน้ำ มีให้เลือกทั้งแบบผิวมันและผิวด้านข้อจำกัด
พื้นเย็น อาจแข็งเกินไปสำหรับบางคน และลื่นถ้าเปียกอายุการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของพื้นกระเบื้องเฉลี่ยจะอยู่ที่ 15 ปีขึ้นไป และสำหรับกระเบื้องบางประเภทที่มีคุณภาพสูง หรือได้รับการดูแลอย่างดี อาจมีอายุการใช้งานได้ถึง 30-50 ปี หรือมากกว่านั้น เลยทีเดียวเหมาะกับใคร
-
ผู้เลี้ยงสัตว์
เนื่องจากเล็บสัตว์แทบไม่สร้างความเสียหายให้พื้นกระเบื้อง และทำความสะอาดคราบปัสสาวะ/อุจจาระได้ง่ายและหมดจด ไม่ซึม ไม่เกิดคราบฝังแน่นหรือกลิ่น -
ผู้ที่ต้องการความทนทานสูงสุดและดูแลรักษาง่าย
กระเบื้องมีความทนทานสูงมาก อายุการใช้งานยาวนาน และทำความสะอาดได้สะดวก -
ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตร้อน
กระเบื้องให้ความรู้สึกเย็นสบายเท้า ช่วยคลายร้อน
ไม่เหมาะกับใคร
-
เด็กเล็ก / วัยซน
หากหกล้มบนพื้นกระเบื้อง อาจบาดเจ็บรุนแรงกว่าบนพื้นผิวอื่น และอาจไม่สบายเท้าเวลาเด็กคลานหรือเล่นบนพื้น -
ผู้สูงอายุ
กระเบื้องบางชนิด โดยเฉพาะผิวมันวาว จะลื่นมากเมื่อเปียกน้ำ เพิ่มความเสี่ยงในการหกล้ม และหากหกล้ม อาจบาดเจ็บรุนแรง นอกจากนี้ อาจทำให้ไม่สบายเท้า โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือในที่อากาศเย็น -
ผู้ที่ต้องการความอบอุ่นและนุ่มสบายเท้า
กระเบื้องให้ความรู้สึกเย็นและแข็ง อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องความสบายในห้องนอน
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นกระเบื้อง
Modern Minimalist, Loft / Industrial, Tropical, Modern Classic, Bohemian เป็นต้น
7. คอนกรีตขัดมัน – เท่ ดิบ สไตล์ลอฟต์
ใครที่ชอบสไตล์อินดัสเทรียลหรือมินิมอลแบบเท่ ๆ การใช้คอนกรีตขัดมันเป็นพื้นห้องนอนก็น่าสนใจไม่น้อย เป็นวัสดุที่ใช้งบไม่สูง แถมยังดูแลง่ายข้อดี
แข็งแรง ไม่กลัวน้ำ ใช้งานได้นาน ดูโมเดิร์นข้อจำกัด
พื้นเย็น เดินแล้วแข็ง ต้องมีพรมหรือเฟอร์นิเจอร์ช่วยลดความแข็งกระด้างของพื้นอายุการใช้งาน
หากได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม พื้นคอนกรีตขัดมันสามารถมีอายุการใช้งานได้ หลายสิบปี ไปจนถึงมากกว่า 100 ปี เลยทีเดียว หรือกล่าวได้ว่า มีอายุการใช้งานเทียบเท่าหรืออาจยาวนานกว่าตัวโครงสร้างอาคารเองเหมาะกับใคร
-
ผู้เลี้ยงสัตว์
เนื่องจากแทบจะไม่ได้รับความเสียหายจากเล็บสัตว์เลย และสามารถทำความสะอาดคราบปัสสาวะ/อุจจาระได้ง่ายและหมดจด ไม่ซึม ไม่เกิดคราบฝังแน่นหรือกลิ่น นอกจากนี้ขนสัตว์หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ก็สามารถกวาดหรือเช็ดออกได้ง่าย -
วัยหนุ่มสาว / ผู้ใหญ่ทั่วไป
ชื่นชอบสไตล์การตกแต่งที่ ดิบ เท่ ทันสมัย และ มินิมอล ที่เป็นเอกลักษณ์ -
ผู้ที่ต้องการความทนทานสูงสุดและดูแลรักษาง่าย
คอนกรีตขัดมันมีความแข็งแกร่ง ทนทานมาก และอายุการใช้งานยาวนาน
ไม่เหมาะกับใคร
-
เด็กเล็ก / วัยซน
หากหกล้มบนพื้นคอนกรีต อาจบาดเจ็บรุนแรงกว่าบนพื้นผิวอื่น และอาจไม่สบายเท้าเวลาเด็กคลานหรือเล่นบนพื้น -
ผู้สูงอายุ
หากหกล้ม อาจบาดเจ็บรุนแรงมาก และอาจทำให้ไม่สบายเท้า โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือในที่อากาศเย็น -
ผู้ที่ต้องการความอบอุ่นและนุ่มสบายเท้า
คอนกรีตขัดมันให้ความรู้สึกเย็นและแข็ง อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องความสบายในห้องนอน -
ผู้ที่ใส่ใจเรื่องเสียง
พื้นคอนกรีตมักทำให้เกิดเสียงก้องหรือเสียงสะท้อนได้ง่าย
สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับการปูพื้นคอนกรีตขัดมัน
Loft / Industrial, Minimalist, Modern Contemporary, Urban Modern เป็นต้นพื้นห้องนอนสวยๆ เริ่มจากความเข้าใจ
สิ่งสำคัญในการเลือกวัสดุปูพื้นห้องนอน ไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการใช้งานในระยะยาว เช่น ความสะดวกในการดูแลรักษา อายุการใช้งาน ความปลอดภัย และความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในบ้าน เพราะแม้จะเลือกพื้นห้องนอนสวย ๆ ได้ตรงใจแค่ไหน แต่หากดูแลยาก หรือมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาในอนาคต ก็อาจทำให้กลายเป็นภาระได้
ตัวอย่างเช่น พื้นพรมและพื้นไวนิล ที่แม้จะให้อารมณ์อบอุ่นและสัมผัสนุ่มนวลเหมาะกับการพักผ่อน แต่หากเลี้ยงสัตว์ภายในบ้าน หรือเป็นคนที่มีอาการภูมิแพ้ ก็ควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากวัสดุเหล่านี้อาจกักเก็บฝุ่นและขนสัตว์ได้ง่าย ทำให้ต้องทำความสะอาดบ่อย และเสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรคหรือสารก่อภูมิแพ้
ส่วนพื้นไม้ เช่น ไม้จริงหรือไม้ลามิเนต แม้จะให้ลุคอบอุ่น สวยคลาสสิก และเหมาะกับห้องนอนแทบทุกสไตล์ แต่ก็ต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วนจากการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงความชื้นที่อาจทำให้ไม้บวม หรือผิวพื้นเสียหายได้โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นการจะเลือกพื้นห้องนอนให้ “สวยและใช้งานได้จริง” จำเป็นต้องเริ่มจากความเข้าใจทั้งในเรื่องคุณสมบัติวัสดุ ลักษณะการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย รวมถึงสไตล์การตกแต่งโดยรวม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันและความรู้สึกในทุก ๆ วัน
แต่งห้องนอนให้น่าอยู่ เริ่มต้นจากพื้นสวย ๆ ที่ทนทานและดูแลง่าย ด้วยทีม One Nine One Discreet Luxury Interior Design ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนของการออกแบบและติดตั้ง
แต่งห้องนอนให้น่าอยู่ เริ่มต้นจากปูพื้นห้องนอนให้สวย ทนทาน และดูแลง่าย ไว้วางใจให้ทีมออกแบบตกแต่งภายในจาก One Nine One ดูแลตั้งแต่การวางแผน ให้บริการเลือกวัสดุ ไปจนถึงการดีไซน์ให้ลงตัวกับสไตล์ของบ้าน
นอกจากนี้เรายังมีบริการรับเหมาตกแต่งภายในครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่งานปูพื้น เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ไปจนถึงระบบไฟและรายละเอียดเล็ก ๆ ที่สำคัญอีกมากมาย ด้วยทีมช่างคุณภาพและ Interior Designer มากประสบการณ์ เพื่อให้ทุกมุมของห้องนอนออกมาสวย ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ในแบบที่ลูกค้าต้องการ
สนใจบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา
โทร. 02-430-6789 และแอดไลน์@1nine1
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกวัสดุปูพื้นห้องนอน
1. สำหรับผู้ที่ต้องการห้องนอนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สงบ และทนทาน ควรเลือกใช้วัสดุปูพื้นประเภทใด และมีข้อดีอย่างไรบ้าง?
- ไม้จริง: ให้สัมผัสอบอุ่น สงบ และดูมีระดับ มีลายไม้เป็นเอกลักษณ์ สามารถขัดเคลือบผิวใหม่ได้ อายุการใช้งานยาวนาน 30-100 ปี
- ไม้เอ็นจิเนียร์: ให้สัมผัสเหมือนไม้จริง ทนชื้นได้ดีกว่าไม้แท้ มีความยืดหยุ่น อายุการใช้งาน 20-50 ปี
- พรม: เพิ่มความอบอุ่นและนุ่มนวล ซับเสียงได้ดี มีหลายสีและลวดลาย เหมาะกับห้องนอนที่ต้องการความนุ่มเท้าและลดเสียงรบกวน
2. การเลือกวัสดุปูพื้นห้องนอนสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง ควรพิจารณาจากอะไร และวัสดุใดที่เหมาะสมที่สุด?
ควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัย การทำความสะอาดง่าย และความทนทานต่อรอยขีดข่วน โดยมีข้อแนะนำดังนี้
- สำหรับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ: พื้นไวนิลมีความยืดหยุ่น ช่วยลดแรงกระแทกหากหกล้ม พื้นผิวไม่ลื่น และทำความสะอาดง่าย พรมก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะนุ่มนวล ลดแรงกระแทก และไม่ลื่น
- สำหรับสัตว์เลี้ยง: พื้นกระเบื้องและคอนกรีตขัดมัน ทนทานต่อเล็บสัตว์ และทำความสะอาดคราบสิ่งขับถ่ายได้ง่าย ไม่เกิดคราบฝังแน่น พื้นไวนิลก็กันรอยขีดข่วนจากเล็บสัตว์ได้ดีและเช็ดทำความสะอาดง่าย ควรหลีกเลี่ยงพรมเนื่องจากขนสัตว์ติดง่ายและคราบสกปรกฝังแน่นได้
3. ระหว่างไม้จริง ไม้ลามิเนต และไม้เอ็นจิเนียร์ วัสดุปูพื้นแบบใดที่ให้ความคุ้มค่าในระยะยาวและเหมาะกับสไตล์การตกแต่งที่หลากหลาย?
- ไม้จริง: ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในระยะยาวด้วยอายุการใช้งาน 30-100 ปี และสามารถขัดเคลือบผิวใหม่ได้ เหมาะกับสไตล์ Modern Classic, Scandinavian, Minimalist, Bohemian, Industrial
- ไม้เอ็นจิเนียร์: เป็นทางเลือกที่ลงตัว มีความคุ้มค่าระยะยาว อายุการใช้งาน 20-50 ปี และสามารถขัดหน้าไม้ได้ (ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไม้จริง) เหมาะกับสไตล์ Modern Classic, Contemporary, Scandinavian, Transitional, Minimalist
- ไม้ลามิเนต: คุ้มค่าในแง่ของราคาที่เข้าถึงง่าย อายุการใช้งาน 10-15 ปี แต่ไม่สามารถขัดทำสีใหม่ได้ เหมาะกับสไตล์ Modern Contemporary, Scandinavian, Minimalist, Transitional, Urban Modern