คู่มือแต่งห้องครัวฉบับอัปเดต ออกแบบครัวหรูมากฟังก์ชัน สะท้อนตัวตน

เริ่มต้นตกแต่งห้องครัวด้วยการ ”วางแผนผัง” และ ”ฟังก์ชัน”

การสร้างครัวหรูให้ตอบโจทย์ในชีวิตจริง คือ การวางรูปแบบการใช้งานที่มีความ Flow เกิดขึ้น ในทุก ๆ ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการประกอบการอาหาร การอุ่นอาหาร การหยิบจับอุปกรณ์ ต้องสามารถทำได้อย่างสะดวก โดยไม่เกิดการติดขัด จากนั้นจึงตามมาด้วยการออกแบบเพื่อความสวยงาม โดยหลักการสำหรับการเริ่มต้นแต่งห้องครัว มีทั้งหมด 3 หลักการ ดังนี้

1. วิเคราะห์ไลฟ์สไตล์การใช้งาน

รูปแบบการใช้งานครัวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ตามความชอบ พฤติกรรม และความสามารถในการทำอาหาร

• เน้นทำอาหารคาวจริงจัง: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร มีการทำอาหารทานเองอยู่เสมอ ควรแยกครัวไทยและครัวฝรั่งออกจากกัน โดยมีกำแพงกั้นแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันกลิ่นอาหาร และควันจากการทำอาหาร มาปนเปื้อนบริเวณตัวบ้าน
• เน้นทำขนมหวาน: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอบขนม ควรแบ่งมีพื้นที่สำหรับการติดตั้งเตาอบขนม และพื้นที่ในการจัดเก็บเครื่องมือโดยเฉพาะ นอกจากนี้ควรแยกตู้แช่ขนม กับตู้เย็นที่ใช้เก็บอาหารทั่วไปออกจากกัน เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารคาวที่อาจปนเปื้อนในขนม และสุขอนามัยที่ดี
• ไม่เน้นทำอาหาร: สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการทำอาหาร แต่นิยมซื้อมาอุ่นทานเองที่บ้าน สามารถทำครัวที่เน้นความสวยงามได้อย่างเต็มที่ โดยเน้นการตกแต่งไปที่อุปกรณ์ที่มีโอกาสใช้ประจำ เช่น การจัดวางไมโครเวฟ เครื่องทำกาแฟ จานชามที่สวยงาม เป็นต้น

2. ถอดรหัส Kitchen Triangle สู่ Work Zones ให้เหมาะกับคุณ

สามเหลี่ยมห้องครัว หลักการเดิม ๆ ที่องค์ประกอบสำหรับการตกแต่งห้องครัวมีเพียงแค่ตู้เย็น อ่างล้างจาน เตาทำอาหาร ซึ่งตอบโจทย์เพียงฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น แต่ปัจจุบันการทำห้องครัวควรตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวก สะอาด และเป็นระเบียบมากขึ้น ฟังก์ชันห้องครัวสมัยใหม่จึงต้องมีการแบ่งโซนที่ละเอียดมากขึ้น ดังนี้

• โซนเตรียมวัตถุดิบ (Preparation Zone): ใช้ในการเตรียมวัตถุดิบก่อนเริ่มประกอบอาหาร ควรใช้วัสดุที่สามารถทนทานต่อความชื้นและทำความสะอาดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่าย เพราะมีการนำของสดมาจัดเตรียมบริเวณนี้
• โซนปรุงอาหาร (Cooking Zone): ใช้ในการปรุงอาหาร มีการติดตั้งเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า รวมไปถึงเครื่องอบขนม ควรแบ่งแยกจากโซนเตรียมวัตถุดิบให้เป็นสัดส่วน เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยในการปรุงอาหาร
• โซนทำความสะอาด (Cleaning Zone): อ่างล้างจาน ใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรมีพื้นที่สำหรับจัดวางอุปกรณ์ทำความสะอาด และแบ่งประเภทการใช้งานอย่างชัดเจน รวมถึงเลือกรูปแบบของอ่างล้างจานให้เหมาะกับตนเอง เช่น อ่างล้างจานแบบคู่ สายพ่นน้ำแบบถอดได้ เป็นต้น
• โซนเครื่องดื่ม/กาแฟ (Beverage Station): ใช้ในการเตรียมเครื่องดื่มเมนูต่าง ๆ นิยมจัดวางในโซนครัวฝรั่งหรือครัวโชว์ เป็นพื้นที่สำหรับการทำเครื่องดื่มง่าย ๆ ใช้เวลาและอุปกรณ์ไม่เยอะ

3. เลือกผังหรือแบบห้องครัวที่ใช่

ผังการออกแบบห้องครัว จะถูกเลือกตามพื้นที่และลักษณะการใช้งานเป็นหลัก โดยสามารถแบ่งแนวทางหรือสัดส่วนได้ทั้งหมด 4 แบบ

• U-Shape: การจัดวางพื้นที่แบบมีตู้เก็บของ 3 ทิศ เน้นการจัดระเบียบสิ่งของต่าง ๆ ภายในครัว มีการแบ่งสัดส่วนการใช้งานแยกออกจากกันอย่างชัดเจน สามารถใช้งานแต่ละส่วนพร้อมกันได้อย่างสะดวกสบาย

• L-Shape: การจัดวางพื้นที่แบบ 2 มุม หรือ 2 ด้านของห้องเท่านั้น โดนพื้นที่อีกฝั่งมักเป็นตำแหน่งของโต๊ะกินข้าว เป็นรูปแบบที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการรวมพื้นที่ของการประกอบอาหารและรับประทานอาหารไว้ในจุดเดียวกัน ให้ความรู้สึกโปร่ง กว้างขวาง

• I-Shape: การจัดวางพื้นที่ติดผนังเพียงด้านเดียว เหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด และไม่ได้มีการทำอาหารบ่อยนัก

• Island Kitchen: การมีเกาะกลางเป็นศูนย์กลางในครัว สามารถใช้ในการเตรียมอาหาร ทานข้าว หรือเป็นพื้นที่ในการพูดคุย ใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกภายในครอบครัว โดยเข้ากับครัวทั้ง 3 รูปแบบได้เป็นอย่างดี นิยมใช้ในบ้านที่มีพื้นที่แบบเปิด

อ่านบทความเพิ่มเติม:10 ข้อผิดพลาดที่คนมักมองข้ามเมื่อออกแบบตกแต่งห้องครัว

4 องค์ประกอบสำคัญในการออกแบบห้องครัว

เมื่อทำการพิจารณารูปแบบห้องครัวที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้การแต่งห้องครัวดูหรูหราอย่างมีระดับ ไปพร้อมกับความสวยงาม ทนทาน สามารถใช้งานได้จริง

1. วัสดุ ผสมผสานความทนทานและความสวยงาม

ประเภทของวัสดุที่เลือกใช้ จะเป็นตัวกำหนดบรรยากาศโดยรวมของห้องครัว รวมถึงความแข็งแรงทนทานในการใช้งาน จึงควรพิจารณาเลือกวัสดุอย่างระมัดระวัง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการออกแบบภายในเพื่อความมั่นใจ ตัวอย่างเช่น

• การเลือกใช้หินควอตซ์หรือหินอ่อนจากธรรมชาติ: แทนการใช้หินสังเคราะห์ มีจุดเด่นในเรื่องความทนทานต่อรอยขีดข่วน และสามารถดูแลรักษาได้ง่าย เหมาะกับห้องครัวที่มีการใช้งานด้วยอยู่ตลอดเวลา
• การเลือกใช้หน้าบานตู้: ที่มีความทนทานหรือผ่านการเคลือบผิวมาอย่างดี จะทนต่อไอน้ำและความชื้น ช่วยให้ไม้ไม่บวมจนเกิดปัญหาในการใช้งานภายหลัง
• การเลือกพื้นผิวเงา: เนื่องจากห้องครัวมีการใช้งานและมีสิ่งสกปรกอยู่ตลอด ควรแต่งครัวด้วยพื้นผิวที่เงา เช่น กระจกลามิเนต กระเบื้องผิวเงา หรือการทาสีกึ่งเงา เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และลดคราบฝังแน่น

2. การจัดเก็บ วางแผนการ Built-in ห้องครัว อย่างมืออาชีพ

หัวใจของความหรูหราและดูดี มาพร้อมกับความสะอาดและเป็นระเบียบ การสร้างห้องครัวให้เป็นสัดส่วน ด้วยการ Built-in ห้องครัว ให้มีพื้นที่จัดเก็บอย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างบรรยากาศและความรู้สึกที่สะอาดตา สบายใจ

• เทคนิค Built-in ชั้นเก็บของโดยผู้เชี่ยวชาญ: บิวท์อินชั้นหรือตู้เก็บของให้แนบเนียนไปกับพื้นที่ในครัว ทำให้ครัวดูสะอาด ไม่รก
• เทคนิคบานตู้ Soft-Close:การใช้ลิ้นชักหรือตู้เก็บของแบบ Soft-Close ช่วยลดเสียงรบกวนขณะใช้งาน ทำให้บ้านเงียบและสงบ

3. แสงสว่าง สร้างบรรยากาศที่เป็นตัวเอง

ห้องครัวเป็นสถานที่ที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์มากมาย การให้ความสำคัญกับทิศทางการตั้งห้องครัว ตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบภายในบ้าน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ที่จะปรับบรรยากาศให้เป็นครัวที่เราต้องการ

• ทิศทางของห้องครัว: ควรวางตำแหน่งของห้องครัวไว้ที่ทิศใต้หรือทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อไม่ให้แดดที่ส่องเข้ามามีความร้อนมากเกินไป จนอุปกรณ์เกิดความเสียหาย
• หลีกเลี่ยงมุมอับ: การวางตำแหน่งหรือการออกแบบห้องครัวให้มีมุมอับมากจนเกินไป จะไม่สามารถระบายกลิ่นต่าง ๆ ออกไปได้หมด จนเกินกลิ่นไม่พึงประสงค์
• การติดตั้งแสงไฟ: ติดตั้งแสงไฟให้เพียงพอต่อการใช้งานภายในครัว เช่น แสงไฟทั่วไป และแสงไฟจากที่ดูดควัน เพื่อให้ง่ายต่อการประกอบอาหารและการทำความสะอาด

4. อุปกรณ์และเครื่องมือ แสดงถึงรสนิยมและความชื่นชอบ

การตกแต่งทุกพื้นที่ในบ้านให้สะท้อนถึงตัวตน สามารถทำได้แม้เป็นห้องครัว โดยการให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ก๊อกน้ำ มือจับ ลายหิน จาน ชาม แก้วน้ำ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จัดเป็นหนึ่งในของตกแต่งห้องครัว ที่สามารถบ่งบอกตัวตนของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือนเครื่องประดับที่สามารถออกไอเดียการตกแต่งห้องครัวได้อย่างเต็มที่

เมื่อการออกแบบ คือตัวแทนในการสร้างตัวตนให้สะท้อนออกมา

นี่คือคู่มือแต่งห้องครัวที่แสดงให้เห็นว่า การตกแต่งห้องครัวให้ออกมาสมบูรณ์แบบได้ มีรายละเอียดและความซับซ้อนมากกว่าที่คิด ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจในหลักงานทำงานของเครื่องมือ ความเหมาะสมของสถานที่ ทิศทางในการจัดวาง พื้นที่ใช้สอย ความทนทานของวัสดุ ฮวงจุ้ย และความสวยงามที่เข้ากัน

ที่ One Nine One เราไม่ใช่แค่ผู้ใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในบ้านเท่านั้น แต่เราพยายามส่งมอบงานที่สวยงามที่สุด ภายใต้ความเหมาะสมของฟังก์ชันการใช้งาน การวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์​และความต้องการของทุกคนในบ้าน เพื่อออกแบบกระบวนการ วางแผนการสร้างบ้านและห้องครัวที่เหมาะสม รวมถึงการตกแต่งห้องครัวด้วยวัสดุคุณภาพดี จนออกมาเป็นพื้นที่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคุณ

การออกแบบห้องครัวไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่คือการสร้างสมดุลของ “ฟังก์ชัน” และ “ดีไซน์ “

ห้องครัวที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี คือการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเป็นพื้นที่ในการปรุงอาหารที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ และสามารถสร้างความทรงจำดี ๆ ให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างอบอุ่น การสร้างตกแต่งห้องครัวด้วยการสร้างสมดุลระหว่างฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง ดีไซน์ที่สะท้อนตัวตน และความสวยงาม ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแลทุกขั้นตอนอย่างละเอียด

เพื่อป้องกันความผิดพลาด ทีมงานจาก One Nine One Discreet Luxury Interior Design มีบริการช่วยเลือก/ออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ ในระดับ Craftsmanship ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนในบ้าน เราพร้อมรับฟังและออกแบบตามสิ่งที่คุณต้องการ พร้อมแนะนำแนวทางที่เหมาะสม เพื่อการ Built-in ห้องครัวและบ้านที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ

ห้องครัวที่ออกแบบมาอย่างดีคือการลงทุนที่คุ้มค่า และเพื่อให้ ‘การลงทุน’ อันล้ำค่านี้ ทั้งวัสดุพรีเมียมและฟังก์ชันที่ซับซ้อนยังคงประสิทธิภาพและความงดงามอยู่เสมอ การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ One Nine One เราจึงมีบริการเสริมสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการรับเหมาตกแต่งภายในกับเรา บริการ Home Preservation Care เพื่อดูแลรักษาสินทรัพย์ในบ้านของคุณให้คงความสมบูรณ์แบบเหนือกาลเวลา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา โทร. 02-430-6789 หรือแอดไลน์@1nine1

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การตกแต่งห้องครัว