บ้านสไตล์วินเทจคืออะไร ทำไมการออกแบบตกแต่งภายในสไตล์วินเทจจึงเป็นความโบราณที่ทันสมัย ไม่ตกยุค!?

เคยไหม เดินเข้าไปในบ้านเก่า ๆ ที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ โซฟาลายดอก และกรอบรูปวินเทจบนผนัง ก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่อีกยุคหนึ่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราว บ้านสไตล์นี้เรียกว่าบ้านสไตล์วินเทจนั่นเอง

โดยบ้านสไตล์นี้ไม่ได้ใช้แนวคิดของการออกแบบภายในให้ดูย้อนยุคเท่านั้น แต่ยังมีการใช้เทคนิคการตกแต่งให้ดูทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ทั้งยังผสมผสานความอบอุ่น ความคลาสสิก และเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากการออกแบบสไตล์อื่น เข้าด้วยกัน

บทความนี้จะพาไปรู้จักบ้านสไตล์วินเทจ ให้ลึกขึ้นว่า คืออะไร จุดเด่นและเสน่ห์ที่ทำให้ยังคงเป็นที่นิยมมีอะไรบ้าง รวมถึงแนวทางการออกแบบตกแต่งภายในที่จะช่วยเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่อบอุ่น คลาสสิก และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว

- เลือกอ่าน

บ้านสไตล์วินเทจ คืออะไร?

บ้านสไตล์วินเทจ (Vintage Style) คือ การออกแบบตกแต่งภายในที่สะท้อนเสน่ห์และความงดงามของยุคสมัยในอดีต โดยเฉพาะช่วงปี ค.ศ. 1837–1901 หรือสมัยสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร โดยคำว่าวินเทจ มีรากศัพท์จากภาษาฝรั่งเศส ว่า Vendage ที่หมายถึงการบ่มไวน์ เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไวน์ก็ยิ่งมีรสชาติลุ่มลึกและมีมูลค่าสูงขึ้น เปรียบได้กับบ้านสไตล์วินเทจที่ยิ่งเก่า ยิ่งมีคุณค่าและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหล

จุดเด่นของการแต่งห้องสไตล์วินเทจ

จุดเด่นของบ้านสไตล์นี้ อยู่ที่ความประณีตและพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง สัดส่วน หรือการเลือกใช้วัสดุ แต่ยังไงก็ตามก็ยังต้องคงความเรียบง่ายและอบอุ่นเอาไว้ด้วย เพื่อให้ทุกพื้นที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวได้อย่างกลมกลืน

แม้จะมีกลิ่นอายของความย้อนยุค แต่กลับไม่ทำให้รู้สึกโบราณหรือล้าสมัย กลับกันบ้านสไตล์วินเทจให้บรรยากาศคลาสสิก อบอุ่น และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แตกต่างและโดดเด่นจากการออกแบบบ้านในสไตล์อื่นอย่างชัดเจน

สรุปง่าย ๆ ว่า บ้านสไตล์วินเทจ คือ บ้านที่ผสมผสานความเก่าและความใหม่อย่างลงตัว มีความละเมียดละไม และความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านที่สะท้อนออกมาในทุกชิ้นงาน

สไตล์วินเทจ คือ ยุคไหน?

การตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจมักได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 1920s–1970s ของยุโรปและอเมริกาโดยเฉพาะงานไม้ งานเหล็กดัด เฟอร์นิเจอร์ที่มีรายละเอียดประณีต รวมถึงโทนสีอบอุ่นแบบเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึกละมุน ดังนั้น วินเทจจึงหมายถึงการนำเสน่ห์ของยุคเก่า ๆ มาเล่าใหม่ในบริบทปัจจุบัน ให้ทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน

เอกลักษณ์ของการแต่งห้องวินเทจ

เอกลักษณ์ของบ้านสไตล์วินเทจ มีอะไรบ้าง?

เอกลักษณ์ของการแต่งบ้านวินเทจที่สังเกตได้ชัดเจน มีดังนี้

1. โครงสร้างที่มีเอกลักษณ์

บ้านวินเทจมักเต็มไปด้วยเส้นสายที่ทำให้บ้านดูโดดเด่น เช่น หลังคาจั่ว (Gable Roof) ช่องโค้ง (Turret) หรือเฉลียงกว้าง (Wrap-around Porch) ที่สวยงามและช่วยสร้างบรรยากาศในอดีตได้เป็นอย่างดี

2. เฟอร์นิเจอร์ไม้แท้หรืองานสั่งทำพิเศษ

เฟอร์นิเจอร์สำคัญของสไตล์นี้ มักเป็นไม้แท้ งานแกะสลัก หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีลายเส้นโค้งอ่อนช้อย หรืออาจเป็นงาน Craftsmanship ที่สั่งทำขึ้นเพื่อให้เข้ากับพื้นที่โดยเฉพาะ

3. โทนสีบ้านวินเทจ

สีที่ใช้ในบ้านวินเทจมักเป็นโทนอบอุ่นและละมุน เช่น

  • ครีม
  • ขาวนวล
  • ฟ้าอ่อน
  • เขียวขี้ม้า
  • น้ำตาลอบอุ่น

สีเหล่านี้ช่วยให้บ้านดูผ่อนคลายและโรแมนติก แต่ในบางกรณีก็อาจแทรกโทนสดใสอย่างส้มอิฐหรือแดงก่ำเข้ามา เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาได้เช่นกัน

4. ของตกแต่งที่มีเรื่องราว

เช่น โคมไฟระย้า แจกันลายดอก ภาพวาดเก่า หรือของสะสมที่มีสตอรี่ ของตกแต่งเหล่านี้ทำให้บ้านวินเทจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำให้บรรยากาศในบ้านอบอวลไปด้วยความทรงจำ

ทั้งนี้ หากคุณกำลังสนใจออกแบบตกแต่งภายใน เลือกของตกแต่ง หรือเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวกับสไตล์วินเทจOne Nine One Discreet Luxury Interior Design มีบริการช่วยเลือก/ออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ พร้อมช่วยวางแผนการจัดวางให้เหมาะกับบ้านของคุณ เพื่อให้ทุกชิ้นงานดูเข้ากัน และสร้างบรรยากาศที่ทั้งคลาสสิกและอบอุ่นอย่างแท้จริง

ของตกแต่งที่มีเรื่องราวช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้บ้านสไตล์วินเทจ

5. แสงไฟและบรรยากาศโรแมนติก

การจัดแสงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยบ้านสไตล์วินเทจมักใช้แสงไฟโทนวอร์มไลท์ ร่วมกับผ้าม่านบางเบา เพื่อสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก อบอุ่น และน่าอยู่

6. ผนังและรายละเอียดประณีต

บ้านสไตล์วินเทจมักเสริมความโดดเด่นด้วยวอลเปเปอร์ลายดอก หรือบัวไม้ที่ตกแต่งตามผนังและฝ้าเพดาน เพื่อเติมเต็มบรรยากาศให้บ้านดูมีมิติและมีเสน่ห์

7. พื้นที่กว้างขวางและโปร่งสบาย

ทั้งห้องโถง ห้องนั่งเล่น และห้องนอนของบ้านสไตล์วินเทจ มักถูกออกแบบให้กว้างและเปิดโล่ง เพื่อรองรับการใช้งานและสร้างความรู้สึกอบอุ่นแบบครอบครัว

เลือกสีบ้านวินเทจอย่างไรให้ลงตัว?

หนึ่งในหัวใจของการแต่งบ้านสไตล์วินเทจก็คือ การเลือกสี โดยทั่วไป สีบ้านวินเทจจะเน้นไปที่โทนอบอุ่นและพาสเทล เช่น

  • ขาวนวล และ ครีม : ให้ความรู้สึกสะอาด อบอุ่น และคลาสสิก
  • เขียวขี้ม้า และ น้ำตาลไม้ : สร้างบรรยากาศเป็นธรรมชาติ
  • ฟ้าอมเทา และ เทาอ่อน : เรียบหรู และช่วยให้บ้านดูโปร่ง
  • ชมพูพาสเทล และ ทองแดง : เติมความโรแมนติกแบบผู้หญิง

เทคนิคเพิ่มเติมจาก Interior Designer: สามารถนำสีวินเทจเหล่านี้มาจับคู่กับโทน Modern Luxury ได้ เช่น การใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ร่วมกับหินอ่อน หรือผ้าม่านพาสเทลคู่กับโคมไฟดีไซน์หรู ก็จะช่วยให้บ้านดูหรูหราและไม่ตกยุค

ไอเดียแต่งห้องต่าง ๆ ในสไตล์วินเทจให้ทันสมัยและหรูหรา

บางคนกลัวว่าแต่งบ้านวินเทจแล้วจะดูโบราณจนไม่น่าอยู่ แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราเลือกดีไซน์และองค์ประกอบให้เหมาะ คุณก็สามารถทำให้บ้านสไตล์วินเทจออกมาสวย หรู ดูทันสมัยได้เช่นกัน

ไอเดียแต่งห้องนั่งเล่นวินเทจ

1. ห้องนั่งเล่น

สามารถใช้โซฟาหนังแท้ หรือโซฟาผ้าลายดอกที่เข้ากับโทนห้อง ใช้โต๊ะกลางวัสดุไม้แบบสั่งทำพร้อมแจกันดอกไม้แห้งหรือโคมไฟตั้งโต๊ะ ตกแต่งผนังด้วยกรอบรูปหรือกระจกวินเทจ

โดยหากคุณต้องการเฟอร์นิเจอร์งานฝีมือที่สะท้อนความประณีต เรามีบริการ Craftsmanship Furniture Selection / Design and Production ที่นอกจากจะช่วยออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังรวมถึงการวางแผนการจัดวางและเสริมการตกแต่งห้องด้วยของตกแต่งบ้านอื่น ๆ เพื่อให้ทุกองค์ประกอบในบ้านของคุณสมบูรณ์แบบ

แต่งห้องนอนสไตล์วินเทจโทนอบอุ่น

2. ห้องนอน

สามารถเลือกใช้เตียงไม้แกะสลักหัวเตียงสูง ผ้าปูที่นอนสีพาสเทลหรือโทนอบอุ่นแบบเอิร์ธโทน ร่วมกับตกแต่งห้องด้วยโคมไฟหัวเตียงและผ้าม่านบาง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศโรแมนติก

ไอเดียแต่งห้องครัวสไตล์วินเทจ

3. ห้องครัว / ห้องทานอาหาร

คุณอาจกเลือกใช้เคาน์เตอร์ครัวไม้แท้หรือท็อปหินอ่อนสีอ่อน ขนาบข้างด้วยตู้โชว์เครื่องถ้วยชามวินเทจ และชุดโต๊ะอาหารไม้พร้อมเก้าอี้บุผ้า

ตกแต่งภายในสไตล์วินเทจดีไซน์สวยกับ one nine one discreet luxury interior design

One Nine One Discreet Luxury Interior Design รับเหมาตกแต่งภายในบ้านสไตล์วินเทจระดับ Modern Luxury

การแต่งบ้านสไตล์วินเทจคือการดึงเสน่ห์เหนือกาลเวลาของยุคอดีตมาผสมกับความหรูหราทันสมัยในปัจจุบัน หากคุณชอบบรรยากาศอบอุ่น โรแมนติก และมีสตอรี่ บ้านวินเทจคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ หรือหากคุณต้องการบ้านที่ดูหรู มีคุณภาพสูง และสะท้อนรสนิยมของคุณเอง ก็สามารถเลือกผสมผสานกับงานออกแบบแบบ Modern Luxury ได้เช่นกัน

และถ้าคุณกำลังมองหาทีมงานที่ช่วยดูแลตั้งแต่การออกแบบ 3D เลือกวัสดุ เลือกเฟอร์นิเจอร์ เลือกสี ออกแบบแสง ไปจนถึงส่งมอบงานคุณภาพระดับพรีเมียม ทีมOne Nine One Discreet Luxury Interior Design พร้อมทำให้บ้านในฝันของคุณกลายเป็นจริงในทุกตารางเมตร

อ่านรายละเอียดบริการออกแบบตกแต่งภายในของเราเพิ่มเติม หรือชมผลงานการออกแบบภายในของเราได้เลย

หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา โทร. 02-430-6789 และไลน์@1nine1

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจ

1. บ้านสไตล์วินเทจเหมาะกับใคร?

เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศอบอุ่น คลาสสิก ชอบรายละเอียดเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ และอยากให้บ้านมีอารมณ์โรแมนติก ให้ความอบอุ่นแบบครอบครัว

Vintage จะเน้นคลาสสิก หรูหรา ให้ความอบอุ่น เรียบหรู timeless ส่วนRetro จะเน้นความสดใส สีจัดจ้าน ลายกราฟิกเยอะ สนุกสนาน

สีขาวนวล ครีม และทอง ให้ความหรูและคลาสสิก หรือหากต้องการเน้นความอบอุ่นเลือกใช้สีเขียวขี้ม้า และน้ำตาลไม้

ส่วนสีฟ้าอมเทา และเทาอ่อน จะให้ความโปร่ง ไม่หนักตา หรือสร้างบรรยากาศโรแมนติกด้วยสีชมพูพาสเทล และโรสโกลด์ หวานแบบไม่เชย

เลือกไม้จริงเคลือบผิว หรือไม้ลามิเนตลายวินเทจ เพื่อให้ดูใหม่อยู่เสมอ และใช้เฟอร์นิเจอร์ผ้าที่ดูคลาสสิกแต่ทำความสะอาดง่าย เช่น ผ้ากำมะหยี่ กันรอย กันน้ำ ส่วนของตกแต่งควรใช้ งานรีโปรดักชันแทนของเก่าที่เปราะบาง

One Nine One Interior Design and Decor 
พร้อมออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

ด้วยบริการหลากหลายรูปแบบจากทีมนักออกแบบและทีมช่างที่มากด้วยประสบการณ์

บทความที่น่าสนใจ

ระบบหมุนเวียนอากาศในบ้าน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

รู้จักระบบหมุนเวียนอากาศในบ้าน ควบคุมอากาศให้อยู่ในระดับที่ดีที่สุดแบบ Healthy Home

ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญกันมากขึ้น การสร้างบ้านที่ดีต่อสุขภาพจึงเกี่ยวข้องกับการออกแบบที่ช่วยเสริมสุขภาพทั้งทางกายและใจ ระบบหมุนเวียนอากาศในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม!

Read More »
healthy home เทรนด์การออกแบบบ้านเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน

เทรนด์ Healthy Home Interior Design คืออะไร? ออกแบบบ้านเพื่อสุขภาพกายและใจ ให้หรูหรา ทันสมัย สไตล์โมเดิร์น

การใช้ชีวิตที่เร่งรีบและความเครียดที่มากขึ้น ทำให้ใครหลายคนเริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่มีต่อร่างกายและจิตใจ โดยผู้คนก็เริ่มที่จะใส่ใจดูแลตัวองมากขึ้น

Read More »